เมลเบิร์น แห่งออสเตรเลีย ซึ่งมีประชากร 5 ล้านคน มีกำหนดจะออกจากการล็อกดาวน์ในวันนี้ ซึ่งเป็นการล็อคดาวน์ครั้งที่ 6 ของเมืองและทำให้ผู้คนเริ่มแสดงความไม่พอใจและออกมาประท้วง อย่างไรก็ดี นายแดน แอนดรูว์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ก็ได้ออกมายืนยันว่าคำสั่งล็อคดาวน์ให้อยู่แต่บ้านยังคงมีผลจนถึงวันที่ 19 สิงหาคมเป็นอย่างน้อย หลังจากที่ทางการไม่สามารถทราบได้ว่าผู้ติดเชื้อ 20 คนที่ตรวจพบนั้นได้รับเชื้อโควิด 19 มาได้อย่างไร ซึ่งการยังคงปิดเมืองอยู่ก็เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดที่หนักขึ้นแบบในซิดนีย์
ทางด้านซิดนีย์ นางกลาดิส เบเรจิคเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้กล่าวว่าจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นและคาดว่ายังคงเป็นแบบนี้ต่อไป โดยซิดนีย์มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันเพิ่มขึ้นอีก 344 ราย และกำหนดการล๊อกดาวน์จะมีไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ดี ด้วยผลกระทบในอุตสาหกรรมการจ้างงานบางแห่ง รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์จึงอนุญาตให้พื้นที่บางแห่งในเขตชานเมืองซิดนีย์ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดกลับไปทำงานก่อสร้างได้ทั่วเมือง ภายใต้เงื่อนไขว่าแรงงานเหล่านั้นได้รับวัคซีนมาแล้ว ทำให้แรงงานบางคนต้องยอมรับวัคซีนแม้จะไม่เต็มใจ
สำหรับออสเตรเลีย จัดได้ว่ามีการควบคุมโควิด 19 ได้ดีกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ โดยมีผู้ติดเชื้อเพียง 37,000 ราย และผู้เสียชีวิต 944 ราย แต่การฉีดวัคซีนนั้นยังเป็นไปอย่างล่าช้า โดยมีประชากรเพียง 25 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ได้รับวัคซีนแบบครบถ้วน รัฐบาลวางแผนยุติมาตรการล็อคดาวน์ เมื่อประชากรได้รับวัคซีนไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศที่มีเกือบ 26 ล้านคน