วันที่ 6 ส.ค. – นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า ท่านอนุทินโปรดทราบ คนไทยที่อยู่ในเยอรมันตัดพ้อ ระบบระเบียบของทางการไทย ที่เขาต้องการระดมเงินช่วยเหลือเพื่อจัดซื้อ ATK ส่งมาช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เพราะที่เยอรมันราคาเพียง 0.8 ยูโร หรือประมาณ 35 บาท ในขณะที่ในเมืองไทย 300-400 บาท ท่านรัฐมนตรีอนุทิน ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ท่านน่าจะเร่งหาทางคลี่คลายระเบียบต่างๆ เป็นการชั่วคราวนะ พร้อมกันนี้ ตนได้แนบข้อความในเฟสบุ๊คมาให้อ่านด้วย
นี่คือข้อความในเฟสบุ๊คของ คุณ Surarak Langer ที่เขียนว่า แผนการระดมทุนส่งชุดตรวจเร่งด่วนจากเยอรมันไปไทยไม่สำเร็จ เสียใจมากๆ รู้สึกแย่จริงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกีดกันขนาดนี้ พวกเราอยู่เยอรมัน เดินไปไหนก็เจอชุดตรวจเร่งด่วนราคาถูกแสนถูกวางขายเต็มไปหมด ทุกครั้งที่เห็นก็ได้แต่คิดถึงคนที่บ้าน หลายคนลองซื้อส่งไปรษณีย์ไป ก็โดนยึด ไม่ถึงมือคนที่เรารัก มีน้องคนนึงชื่อน้องดรีมรู้สึกคับแค้นใจมาก เลยวางแผนว่า เราต้องหาทางส่งแบบเป็นทางการ ถูกต้องตามกฎหมาย ครั้งแรกจะลองส่ง 1000 ชุด บริจาคให้กลุ่มคนดูแลกันเอง ไปช่วยในแคมป์คนงาน ถ้าทำได้จริงเราจะช่วยกันระดมทุนในยุโรปแล้วส่งไปอีกเยอะๆ
เงื่อนไขหลักๆ คือต้องบริจาคผ่านหน่วยงานรัฐ และชุดตรวจต้องได้รับการรับรองจาก อย. จากนั้นต้องทำจดหมายขอยกเว้นภาษีจากศุลกากร และทำเรื่องส่งพิเศษในอุณหภูมิที่ถูกต้อง เพราะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดูซับซ้อน แต่ก็น่าจะเป็นไปได้ น้องดรีมระดมทุนได้ภายในวันเดียว ส่วนขั้นตอนที่เหลือยาวนานครึ่งเดือนก็ไม่สำเร็จ ติดต่อ อย. หลายครั้ง ชุดตรวจที่ได้รับการยอมรับจาก อย.ไทย คือพวกที่ราคาแพงมาก นางก็ไปหามาจนได้ที่ถูกที่สุด ต่อมา อย. บอกว่าต้องบริจาคผ่านสภากาชาดเท่านั้น หรือหน่วยงานรัฐจริงๆ ไปตามหาเจ้าภาพเป็น มหาลัยธรรมศาสตร์ ก็ไม่ได้อีก เพราะไม่เป็นหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวกับการแพทย์ จะส่งให้โรงพยาบาล ของก็คงไม่ถึงแคมป์
ยิ่งทำเรื่อง ยิ่งลากยาว ติดวันหยุดสามวัน หยุดโน่นนี่ สถานการณ์ในเมืองไทยก็แย่ลงทุกวัน ดูแล้วคงไม่มีหวังจาก อย. แล้วยังไม่รู้จะไปติดปัญหาศุลกากรอีกไหม สุดท้ายน้องดรีมเลยตัดสินใจ ส่งเงินไปให้เพื่อน ซื้อชุดตรวจที่เมืองไทยได้ 275 ชุด แล้วส่งให้กลุ่มคนดูแลกันเองใช้ไปก่อน เมื่อวานไปซื้อกับข้าวที่ซุปเปอร์ เห็นชุดตรวจราคาถูกแล้วยังนึกเสียใจไม่หาย ความล่าช้า ยืดยาด ไม่ปรับตัวของรัฐบาลไทย มันไม่เปิดโอกาสให้ใครยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเลย ตอนนี้เข้าใจแล้วว่า การที่เอกชนจะช่วยเรื่องซื้อวัคซีนมันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ติดขัดไปหมดทุกอย่าง
น้องดรีมเขียนเล่ารายละเอียดทุกอย่างไว้หน้าเฟซตัวเอง ลิงก์อยู่ในคอมเมนท์แรก ไม่ได้แชร์เพราะแชร์แล้วคนไม่ค่อยเห็น ใครอยากแชร์ก็ไปแชร์จากต้นทางได้เลยนะคะ น้องดรีมเปิดสาธารณะไว้ ไปให้กำลังใจนางหน่อย
