เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 14 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยกู้ภัยอโสกสมเด็จ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเด็กติดอยู่ในน้ำตกผาลี่ เขต ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ 3 ราย ไม่สามารถขึ้นมาได้เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลากลงมาจากป่าสงวนแห่งชาติภูผาเหล็กและไหลเชี่ยว หลังรับแจ้งเข้าให้การช่วยเหลือ และประสานหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ หน่วยกู้ภัยร่วมใจ กู้ชีพเทศบาลมหาไชยและ
ผู้นำชุมชน พร้อมนำอุปกรณ์เข้าให้การช่วยเหลือ
โดยที่เกิดเหตุอยู่ภายในบริเวณน้ำตกผาลี่ ติดกับพื้นที่บ้านโคกกว้าง ม.1 ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูผาเหล็ก เขตอุทยานแห่งชาติเขาภูพาน ห่างจากหมู่บ้าน 3.5 กม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในบริเวณน้ำตกอีกกว่า 1 กิโลเมตร กระทั่งพบเด็ก 3 ราย เป็นเด็กชายอายุ 11 ปี เด็กหญิงอายุ 13 ปี และชายอายุ 15 ปี ติดอยู่ใต้ซอกหินของน้ำตก ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับรอยแยกของภูหินเป็นร่องผาลึกกว่า 13 เมตร โดยทั้ง 3 คน พากันยืนหลบกระแสป่าอยู่บนโขดหิน ท่ามกลางกระแสน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวลงมาตลอดเวลา พร้อมกับส่งเสียงร้องของความช่วยเหลือ
ทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตะโกนเรียกให้เด็กทั้ง 3 คนพยามหาที่ปลอดภัยหลบกระแสน้ำ และใช้เชือกหย่อนเสื้อชูชีพไปให้เด็กสวมไว้ก่อน จากนั้นได้วางแผนช่วยเหลือ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสนำป่ายังคงไหลเชี่ยว และร่องผามีความลึก ก่อนจะให้นายนัฐพงษ์ ถิ่นจำลอง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอโสกสมเด็จ โรยตัวลงไปยังจุดที่เด็กทั้ง 3 คนอยู่ แล้วใช้เชือกผูกตัว ช่วยกันดึงขึ้นมาปลอดภัยทั้ง 3 คน และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นและถูกกระแสน้ำพัดไป ซึ่งผู้ปกครองจะมารับตัวกลับบ้าน และต้องรีบพากันออกจากจุดดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะมีน้ำป่าไหลหลากลงมาเพิ่มอีก เพราะยังมีฝนตกอยู่ตลอดเวลา
จากการสอบถาม เด็ก อายุ 15 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คนที่ติดอยู่ในน้ำตก อยู่บ้านโคกกว้าง ม.1 ต.มหาไชย กล่าวว่า ปกติตนและเพื่อนรุ่นน้องในหมู่บ้านมักจะชวนกันไปเล่นน้ำตกแห่งนี้เป็นประจำ วันนี้ก็เช่นกันได้พากันไป 6 คน ก่อนเกิดเหตุเพื่อนรุ่นน้อง 3 คนได้ขึ้นมาและกลับบ้านก่อน เหลือตน น้อง และเพื่อนรุ่นน้องหญิง ซึ่งระหว่างที่กำลังเล่นน้ำอยู่ได้ยินเสียงเหมือนน้ำไหล ก่อนจะเห็นมวลน้ำไหลตกลงมา และเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนจึงตั้งสติพาน้องๆรีบขึ้นไปอยู่บนโขดหินสูง พร้อมตะโกนให้คนช่วยนานกว่า 2 ชม. ก่อนจะมีชาวบ้านที่มาเก็บเห็ดเห็น แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ซึ่งตนตกใจมากไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน และมีกู้ภัยมาช่วยก่อนที่จะถูกกระแสน้ำพัด ซึ่งต่อไปคงไม่กล้าไปเล่นน้ำแบบนี้อีกแล้ว
ด้านนางนวล อายุ 57 ปี ชาวบ้านโคกกว้าง ซึ่งเป็นยายของเด็ก กล่าวว่า เด็ก 2 คนที่เป็นผู้ชายที่ติดในน้ำตกเป็นหลานของตน พ่อแม่ไปทำงานต่างจังหวัด ปกติมักจะออกไปเล่นน้ำตกเป็นประจำ ซึ่งตนคอยห้ามหลายครั้งแล้ว ก็ยังแอบไป วันนี้ตนไม่อยู่บ้านหลานจึงแอบไปกับเพื่อนอีก จนเกิดเหตุดังกล่าว โชคดีมีคนเห็นก่อน และมีทีมกู้ภัยเข้ามาช่วยได้ทันก่อนที่ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น และถูกกระแสน้ำพัดไป อย่างไรก็ตามต่อไปก็คงต้องดูแลหลานให้ใกล้ชิดมากขึ้น ไม่ให้ไปเล่นน้ำในน้ำตกอีก
ขณะที่นายธีรนันท์ ทุนสันเทียะ อาสากู้ภัยอโสกสมเด็จ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปหาเก็บเห็ดว่ามีเด็กติดอยู่กลางลำน้ำป่าภูพาน บริเวณน้ำตกผาลี่บ้านโคกกว้าง หมู่ 1 ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเด็กผู้ชาย 2 คน เด็กหญิง 1 คน จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์หน่วยกู้ภัยร่วมใจ กู้ชีพเทศบาลมหาไชย และผู้นำชุมชน เข้าให้การช่วยเหลือเด็กทั้ง 3 คน ซึ่งยืนอยู่บนโขดหินข้าง ติดกำแพงหินริมฝั่งน้ำ ที่กระแสน้ำป่ากำลังไหลเชี่ยวรุนแรง โดยตำแหน่งที่เด็กทั้ง 3 คนติดอยู่ต่ำจากข้างบนประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นลักษณะผาชันและผิวลื่น เนื่องจากมีสายฝนตกลงมาตลอดเวลา ไม่สามารถปีนขึ้นมาบนฝั่งได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องกะโกนแข่งกับเสียงน้ำ ให้เด็กทั้ง 3 มีสติ อย่าตื่นกลัว ก่อนที่กู้ภัยจะร่วมกันวางแผนช่วยเหลือ เพื่อช่วยชีวิตเด็กทั้ง 3 คนให้ความปลอดภัย โดยใช้เชือกหย่อนลงไปให้เด็กผูกปลายเชือกที่ลำตัว จากนั้นค่อยดึงขึ้นมาทีละคนจนสามารถนำขึ้นมาฝั่งได้รับความปลอดภัย ทั้งนี้ใช้เวลาช่วยเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามทางด้านนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ นายอำเภอทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งผู้นำชุมชนแจ้งเตือนประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่ม และพื้นที่อยู่ติดเชิงเขา ให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มในช่วงนี้ พร้อมจัดเตรียมบุคลากร และอุปกรณ์การช่วยเหลือ เตรียมความพร้อมหากมีสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดห้ามลงเล่นน้ำในช่วงนี้ โดยเฉพาะน้ำตกตามสถานที่ต่างๆ.
ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์
