คำขู่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ที่ว่าจะหยุดส่งอาวุธสนับสนุน ถ้าอิสราเอลเปิดฉากรุกบุกเมืองราฟาห์ภาคพื้นดิน ถูกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาตอบโต้กลับทั้งแบบขึงขังและประชดประชัน เริ่มจาก เบซาเลล สมอต-ริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอล ที่มีนโยบายขวาจัด ประกาศกร้าวว่า การต่อต้านของสหรัฐ มีแต่จะเป็นแรงผลักให้อิสราเอล ต้องชนะสงครามครั้งนี้ อิสราเอลต้องกำจัดฮามาสให้หมดสิ้นไปและพาตัวประกันกลับบ้าน ซึ่งหมายถึงการพิชิตเมืองราฟาห์อย่างสมบูรณ์ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ด้าน นายอิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล เขียนบน X หรือทวิตเตอร์ ว่า อิสราเอลจะเดินหน้ารบจนกว่าฮามาสจะถูกทำลาย ขณะที่ นายอิตามาร์ เบน กวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และผู้นำพรรคขวาจัดอิสราเอล ทวีตแซะสั้นๆ “ฮามาสรักไบเดน” โดยใช้รูป หัวใจ ตรงกลาง
กีลาด เออร์ดัน ทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ บอกสถานีวิทยุสาธารณะในอิสราเอลว่า การตัดสินใจของไบเดน น่าผิดหวังอย่างยิ่ง และเกรงว่าจะถูกศัตรูอิสราเอล ไม่ว่าจะฮามาส อิหร่าน และฮิซบอลเลาะห์ ตีความว่า เป็นการให้ความหวังสู่ความสำเร็จบางอย่าง เออร์ดัน กล่าวว่า อิสราเอลจะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร ถ้าไม่ได้รุกเข้าไปยังพื้นที่สำคัญอย่างราฟาห์ ที่มีผู้ก่อการร้ายหลายพันคน มีตัวประกัน และบรรดาหัวหน้าฮามาส อยู่ที่นั่น นอกจากนี้ ยังเตือนว่า มีชาวอเมริกันเชื้อสายยิวจำนวนมาก ที่เคยโหวตให้ไบเดน และพรรคเดโมแครต แต่ตอนนี้พวกเขาเริ่มลังเลแล้ว .
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNN ออกอากาศเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ประธานาธิบดีไบเดน แสดงท่าทีชัดเจนที่สุดว่า จะไม่สนับสนุนอาวุธอิสราเอล หากบุกเมืองราฟาห์ ที่มีชาวปาเลสไตน์อยู่กันอย่างหนาแน่น ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน สหรัฐยืนยันว่า ได้ระงับการส่งระเบิดยักษ์ 2 พันปอนด์ และ 5 พันปอนด์ เพราะเกรงว่ากองทัพอิสราเอลจะนำไปใช้ถล่มเมืองราฟาห์ ซึ่งไบเดน ยอมรับระหว่างให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ระเบิดสหรัฐฯเหล่านั้น คร่าชีวิตพลเรือนในกาซ่า
นิวยอร์กไทมส์ รายงานเมื่อเดือนธันวาคมว่า กองทัพอิสราเอลใช้ระเบิด MK-84 หนัก 2 พันปอนด์หรือ 907 กิโลกรัม ถล่มเมืองจาบาเลีย และค่ายผู้ลี้ภัย อัล ชาตี เมื่อปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก