ฮัมซา ยูซาฟ นายกฯชาวมุสลิมคนแรกของสก็อตแลนด์ประกาศลาออก หลังทำงานได้ไม่ถึงปี
ในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ ในกรุงเอดินบะระ ฮัมซา ยูซาฟ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีสก็อตแลนด์และหัวหน้าพรรคชาตินิยมสกอตแลนด์ ( เอสเอ็นพี ) หลังเพิ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม 2566 และสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำเชื้อสายมุสลิมคนแรก ซึ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดในแวดวงการเมืองของสหราชอาณาจักร อีกทั้งด้วยอายุน้อยที่สุด คือ 39 ปี
การลาออกของเขาเกิดขึ้น หลังจากที่ข้อตกลงร่วมรัฐบาลระหว่างพรรค เอสเอ็นพี และพรรค กรีนส์ ยุติลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังรัฐบาลของเขาได้ละทิ้งเป้าหมายอันทะเยอทะยาน ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้พรรคกรีน ยูซาฟหวังจะเป็นผู้นำรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคกรีนส์ระบุว่า จะไม่สนับสนุนเขา และได้ยื่นญัตติเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
ยูซาฟ กล่าวในการแถลงข่าวว่า การเจรจาข้อตกลงจะทำให้เขาสามารถรอดจากการลงมติไม่ไว้วางใจได้อย่างแน่นอน แต่เขาไม่ทำ เพื่อยึดหลักการ และไม่ต้องการแลกกับการอยู่ในอำนาจ พร้อมเสริมว่าจะรักษาการณ์อยู่ในตำแหน่ง จนกว่า พรรค เอสเอ็นพี จะสามารถเลือกผู้มาดำรงตำแหน่งแทน โดยขณะนี้รัฐสภาสกอตแลนด์มีเวลา 28 วันในการเลือกนายกฯคนใหม่ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
การลาออกครั้งนี้ ทำให้ยูซาฟ เป็นหัวหน้าพรรคเอสเอ็นพี ที่ดำรงตำแหน่งสั้นที่สุด นับตั้งแต่สกอตแลนด์มีรัฐบาลของตัวเองในปี 1998 นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำชาวมุสลิมคนแรก ในยุโรปตะวันตกสมัยใหม่ และเป็นมุสลิมคนแรก ที่เป็นผู้นำพรรคใหญ่ ในสหราชอาณาจักร
ยูซาฟมีจุดยืนสนับสนุน การแยกตัวของสกอตแลนด์จากสหราชอาณาจักร และกลับเข้าร่วมสหภาพยุโรปอีกครั้ง ในฐานะประเทศเอกราช เมื่อปีที่แล้ว เขาได้ลงนามในยุทธศาสตร์ใหม่ที่ระบุว่า พรรคเอสเอ็นพี จะเริ่มการเจรจาการออกจากสหราชอาณาจักรทันที หากพรรคชนะที่นั่งส่วนใหญ่ในสกอตแลนด์ ในการเลือกตั้งทั่วไป ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ขณะที่นายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ผู้นำสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นรัฐบาลกลางกล่าวว่า คาดหวังผู้นำคนใหม่ของสกอตแลนด์ จะ เลิกเสพติดกับนโยบายแบ่งแยกดินแดน ที่ยังคงเป็นแกนกลางนโยบายของพรรคเอสเอ็นพี และให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
นอกจากนี้ นาเดีย ภรรยาของยูซาฟ มีเชื้อสายปาเลสไตน์ และเธอติดอยู่ในฉนวนกาซาเป็นเวลาสี่สัปดาห์ในฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว หลังจากไปเยี่ยมญาติที่นั่น ในเดือนมกราคม ยูซาฟกล่าวประณามการกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซา เทียบเท่ากับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และกล่าวว่า การที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรปฏิเสธที่จะเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที ระหว่างอิสราเอลและฮามาสนั้นน่าละอาย นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้ อังกฤษยุติการขายอาวุธให้อิสราเอลหลายครั้ง