No data was found

ทำความรู้จักโลหะหนัก “แคดเมียม” สารตั้งต้น “โรคอิไตอิไต-มะเร็ง” ด้าน “อ.อ็อด” เตือนอันตราย ถึงขั้นระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิต

กดติดตาม TOP NEWS

"อ.อ๊อด" รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์เคมีคนดัง ได้เปิดเผยความอันตรายของ แร่แคดเมียม ระบุว่า "แคดเมียมออกไซด์" เป็นสารก่อมะเร็งที่ไตและต่อมลูกหมาก

ทำความรู้จักโลหะหนัก “แคดเมียม” สารตั้งต้น “โรคอิไตอิไต-มะเร็ง” ด้าน “อ.อ็อด” เตือนอันตราย ถึงขั้นระบบหายใจล้มเหลว เสียชีวิต – Top News รายงาน

จากกรณีที่กรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาแถลงข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ร้องเรียนว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก ได้ขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบในจังหวัดตาก ให้กับบริษัทหนึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาครกว่าหมื่นตัน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง เนื่องจากกากแร่ดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็ง การขนย้ายจากบ่อฝังกลบที่จังหวัดตากออกมาที่จังหวัดสมุทรสาคร ถือเป็นการกระทำความผิดที่รุนแรง จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านสุขภาพอนามัย เพราะเก็บใส่ถุงบิ๊กแบ็กในอาคารและนอกอาคารพันกว่าถุง จึงต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประกาศเขตภัยพิบัติฯ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

แคดเมียม

ล่าสุดทางด้าน “อ.อ๊อด” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์เคมีคนดัง ได้เปิดเผยความอันตรายของ แร่แคดเมียม ระบุว่า “แคดเมียมออกไซด์” เป็นสารก่อมะเร็งที่ไตและต่อมลูกหมาก นอกจากนั้นยังทำอันตรายต่อไตเกิดโรคไตอย่างรุนแรง ทำให้สูญเสียประสาทการดมกลิ่นและทำให้ เลือดจาง ถ้าได้รับปริมาณมากระยะสั้น ๆ จะมีอาการจับไข้ หนาว ๆ ร้อน ๆ ปวดศีรษะ อาเจียน อาการนี้จะเป็นได้นานถึง 20 ชั่วโมงแล้วตามด้วยอาการเจ็บหน้า อก ไอรุนแรง น้ำลายฟูม ดังนั้น เมื่อใดมีไอของแคดเมียม เช่น จากการเชื่อมเหล็กชุบ ควรใช้หน้ากากป้องกันไอและฝุ่นของแคดเมียม หรือสารประกอบแคดเมียม ในขณะทำงาน

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้มีข้อมูลด้วยว่า หากแคดเมียมถูกความร้อนที่ 321 องศาเซลเซียส จะเกิดเป็นควันกระจายสู่สิ่งแวดล้อม เมื่อร่างกายสูดดมเข้าไป จะทำให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีปวดศีรษะ กล้ามเนื้อ ปวดท้อง ปอด ไต และตับ จะถูกทำลาย ถ้าหากหายใจควันเข้าไปในปอด จะมีอาการเจ็บคอ หายใจสั่น มีเสมหะเป็นเลือด น้ำหนักลด โลหิตจาง การหายใจจะลำบากมากขึ้นจนถึงขั้นระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตในที่สุด เมื่อรับแคดเมียมเข้าร่างกาย   หากรู้ว่ามีความเสี่ยงหรือมีสารโลหะหนักในร่างกายเยอะ แนะนำให้ตรวจหาสารโลหะหนัก ซึ่งในปัจจุบันก็มีการตรวจง่ายๆ โดยไม่ต้องเจาะเลือด เช่น การตรวจด้วยเครื่อง Oligoscan เป็นการตรวจวัดระดับแร่ธาตุและโลหะหนักระดับเนื้อเยื่อ

มะเร็ง

โดยมากอาการจะเป็นแบบไม่เฉพาะเจาะจง เช่น มีอาการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น หรือนอนไม่หลับ บางครั้งมีความรู้สึกว่าสมองล้า ลืมง่าย หรือความคิดสร้างสรรค์เรื่องงานลดลง แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงอยู่แล้ว เช่น โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เบาหวาน เป็นต้น จะทำให้อาการแย่ลงหรือว่าการรักษาไม่สำเร็จผลอย่างที่ควรจะเป็น บางครั้งผู้ที่ได้รับสารพิษโลหะหนักอาจจะพบว่ามีอาการภูมิแพ้แบบไม่ทราบสาเหตุ หรือมักจะมีอาการเจ็บป่วยบ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุได้เช่นกัน

การกำจัดหรือล้างสารพิษโลหะหนักในร่างกาย ทำได้โดยการให้สารทางหลอดเลือด เพื่อที่จะไปจับกับโลหะหนักออกจากร่างกาย ซึ่งวิธีนี้มีการใช้ยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันก็ยังมีที่ใช้อย่างแพร่หลายทางพิษวิทยาอยู่ แต่ว่าต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายด่าง" เผย 3 สาเหตุ "บุ้ง ทะลุวัง" เสียชีวิตก่อนถึงรพ. พร้อมขอประวัติการรักษาย้อนหลัง
ลอวเรนซ์ หว่อง ลั่นจะรับใช้ปชช.ด้วยหัวใจ สิงคโปร์ผลัดใบครั้งแรกในรอบ 20 ปี
รัสเซีย ยึดหมู่บ้านสำคัญเชิงสัญลักษณ์
ศุลกากรร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี กอ.รมน. แถลงข่าวการจับกุมร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า 2 แห่ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
9 ขวบรอดฉิวเฉียดกระสุนทะลุห้องฝุ่นตลบ (คลิป)
"สมศักดิ์" หนุนนำกัญชาต่อยอดการแพทย์ สร้างประโยชน์ศก. รับฟังทุกเสียงค้านขึ้นบัญชียาเสพติด
จีนเปลี่ยน ‘ฟาง’ เป็น ‘พลังงาน’ หนุนรักษ์สิ่งแวดล้อม
เฮงสุดๆ ลูกค้า "สนง.สลากฯ" ซื้อสลากฯ รับโชคใหญ่ ถูกรางวัลที่ 1 งวด 16 พ.ค. คนเดียวรวย 72 ล้าน
เกาหลีใต้ พุทธศาสนิกชนรวมตัวไหว้พระวันวิสาขบูชา
สโลวาเกีย เรียกประชุมความมั่นคงหลังนายกฯถูกลอบสังหาร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น