สหรัฐผ่านงบช่วยเหลือฉุกเฉิน 60 ล้านดอลลาร์แก่รัฐแมริแลนด์อย่างเร่งด่วน ตอบสนองเหตุสะพานเมืองบัลติมอร์ถล่ม ผู้เชี่ยวชาญประเมิน บริษัทประกันอาจต้องชดเชยค่าเสียหายรวมกันหลายพันล้านดอลลาร์
ในวันพฤหัสบดี รัฐบาลสหรัฐมอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่รัฐแมริแลนด์เป็นจำนวนเงิน 60 ล้านดอลลาร์(ราว 2 พัน 2 ร้อยล้านบาท) เพื่อตอบสนองเหตุสะพาน ฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ในเมืองบัลติมอร์ ถล่มลงในวันอังคาร หลังเรือดาลี เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ติดธงสิงคโปร์พุ่งชนเสาสะพาน ทำให้คนงานซ่อมถนนบนสะพาน 8 คนร่วงลงในแม่น้ำปาทัปสโก และซากสะพานปิดกั้นเส้นทางเดินเรือ ทำท่าเรือบัลติมอร์ หนึ่งในท่าเรือสำคัญที่สุด ในชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ต้องปิดอย่างไม่มีกำหนด
การผ่านวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉินครั้งนี้ เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่นาย เวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ได้ร้องขอในวันเดียวกัน โดยทั่วไปการระดมทุนดังกล่าวจะใช้เวลาหลายวัน แต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จะสั่งการให้รัฐบาลกลางทำทุกวิถีทาง เพื่อสร้างสะพานขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นสะพานเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางหลักของทางหลวงที่ใช้สัญจรรอบบัลติมอร์
มัวร์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกขณะนี้คือ การค้นหาร่างคนงานก่อสร้าง ที่ทำงานอยู่บนสะพานขณะเกิดเหตุ ซึ่งยังคงสูญหาย 4 ราย จากนั้นจึงจะเป็นการเคลียร์ซากเพื่อให้การขนส่งทางเรือกลับมาดำเนินการได้ รวมถึงดูแลเยียวยาเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรม และเข้าสู่ขั้นตอนสร้างสะพานขึ้นใหม่
เมื่อวานนี้ กองวิศวกรกองทัพบกสหรัฐได้นำเครนที่ใหญ่ที่สุด ในบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกเข้าพื้นที่ เพื่อรื้อชิ้นส่วนของสะพาน และทีมผู้เชี่ยวชาญกำลังประเมินวิธีการว่า จะนำเรือซึ่งบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จำนวนหลายพันตู้ ที่ติดอยู่กับซากสะพานออกอย่างไร ซึ่งมัวร์ระบุว่า เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากเรือที่มีความยาวเท่ากับหอไอเฟล ถูกโครงสร้างเหล็กสะพาน ซึ่งมีน้ำหนักถึง 3 ถึง 4 พันตันทับอยู่ด้านบน และเศษซากสะพานขนาดมหึมา ที่บังแสงแดดใต้น้ำ กำลังเป็นอุปสรรคการทำงานค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ทำให้นักดำน้ำต้องหยุดปฏิบัติการค้นหา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ประเมินว่า การสร้างสะพานใหม่อาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ โดยสภาคองเกรสแห่งสหรัฐจะต้องให้ทุนสร้างสะพานทดแทน
ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า เหตุสะพานถล่มครั้งนี้ อาจทำให้บริษัทประกันต่างๆ ต้องสูญเสียเงินรวมกันหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ไม่ว่าจะเป็นการชดเชยประกันภัยทรัพย์สิน สินค้า ประกันเดินเรือ ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก เครดิตการค้า และการหยุดชะงักของธุรกิจ โดยวงเงินชดเชยสูงสุดของการเรียกร้องต่อกรณีอาจสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้โศกนาฏกรรมครั้งนี้กลาย เป็นเหตุการณ์จ่ายสินไหมของประกันการขนส่ง ที่สูงอย่างมากเป็นประวัติการณ์
