No data was found

“เครือข่ายธรรมาภิบาล” ยันแบงก์การันตีปลอมชัดเร่งคดีอาญา EASTW ร่วมผิด

กดติดตาม TOP NEWS

"เครือข่ายธรรมาภิบาล" ยันแบงก์การันตีปลอมชัดเร่งคดีอาญา EASTW ร่วมผิด

สืบเนื่องจากเมื่อปี 2565 นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เปิดเผยถึง กรณีที่มีบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) ในโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี วงเงิน 75 ล้านบาท ได้มีการปลอมและใช้เอกสารปลอม คือ ทำและนำหนังสือสัญญาค้ำประกันธนาคารปลอม หรือ Letter of Guarantee (LG) ปลอม เข้าทำสัญญาจ้าง

ล่าสุด วันนี้ (29 พ.ย.66) นายวิวัฒน์ เปิดเผยกับ TOPNEWS ถึงประเด็นดังกล่าว ว่า หลังจากได้ยื่นกล่าวโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เอกสารปลอม คือ แบงก์การันตีปลอมทั้ง 2 ฉบับ ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อเมื่อปี 65 และเมื่อกลางเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา  ได้ติดตามสอบถามกับพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ตนในฐานะผู้กล่าวโทษที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถือหุ้นอีสท์ วอเตอร์ ซึ่งตนได้ให้ถ้อยคำพร้อมกับส่งพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

 

 

ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกให้บริษัท อีสท์ วอเตอร์ ส่งเอกสารสัญญาที่ได้เซ็นสัญญากับเอกชนรายที่ใช้เอกสารปลอม ในโครงการปรับปรุงสระน้ำสำนักบก ให้เข้าในสำนวน และหนังสือสัญญาแบงก์การันตีปลอมทั้ง 2 ฉบับที่เป็นฉบับจริง มาให้พนักงานสอบสวน ภายในวันที่ 6 ธ.ค.66

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หากพนักงานสอบสวนได้ตรวจหลักฐาน คือ สัญญาฉบับจริง ที่ประกอบกับหนังสือค้ำประกันปลอมด้วยนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะส่งพิสูจน์กองพิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป เบื้องต้นที่ส่งหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวนในชั้นเบื้องต้นนั้น พนักงานสอบสวน ระบุว่า เอกสารแบงก์การันตีทั้ง 2 ฉบับนั้น น่าจะเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง

หลังจากตรวจสอบว่า ได้รับการยืนยันจากกองพิสูจน์หลักฐาน ที่ตนมองว่ายังไงก็เป็นของปลอม เป็นที่ยุติแล้ว ทางพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ จะมีหมายเรียกไปที่ธนาคารเพื่อให้ยืนยันข้อถูกผิด เพราะเอกสารปลอมระบุออกโดยธนาคารกสิกรไทย  ฉะนั้น ทางธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ต้องมายืนยันข้อเท็จจริงว่า เป็นเอกสารที่ได้ออกจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า “เป็นเอกสารปลอมอยู่แล้ว”

 

 

 

โดยในชั้นนี้ หากหลักฐานดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ผู้เสียหายในเรื่องดังกล่าวจะมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ 1.บริษัท อีสท์วอเตอร์ ในฐานะที่มีเอกชนที่เข้าทำสัญญานำเอกสารปลอมมาทำให้ตนเองเป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญาได้ 2. ธนาคารกสิกรไทย ต้องแสดงตนเป็นผู้เสียหายเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ทำเอกสารปลอมขึ้นมาในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามสอบถามว่า หลังจากนี้จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายวิวัฒน์ ระบุว่า ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ซึ่งตนได้มีการไปยื่นสอบถามความคืบหน้ากรณีนี้ หากหลักฐานต่างๆ ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเอกสารปลอม เราจะนำหลักฐานนี้ ส่งให้ ก.ล.ต.อีกครั้ง เนื่องจาก ก.ล.ต.แจ้งว่า หากมีพยานหลักฐานใหม่ ก.ล.ต.จะมาตรวจสอบว่า การดำเนินการที่นำเอกสารปลอมมาเซ็นสัญญา กับ บริษัท อีสท์ วอเตอร์ มีผู้บริหาร หรือ คณะกรรมการรายใดรายหนึ่งของ อีสท์ วอเตอร์ มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ก็จะดำเนินการตามกฎหมายที่ ก.ล.ต. มีอำนาจหน้าที่ต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีน ซัดกลับแอมเนสตี้หลังกล่าวหาคุกคามคนจีนในต่างแดน
ร้านอาหารชื่อดังเมืองกรุงเก่าจัดวันพิเศษ ครบรอบแต่งงาน 62 ปี คุณสุมณี คุณะเกษม เจ้าของฉายา “ บาร์บี้เมืองไทย ”
"นายกฯ" นำครม.สวมเสื้อต้นตาลโตนด ชมแข่งวัวลาน สั่งมท.ขยายเวลาเล่นถึงเช้า
เปิดหนังสือ "กฤษฎา" ลาออกรมช.คลัง แจงทำหน้าที่เต็มความสามารถ แต่ถูกไม่ให้เกียรติ
"สภาฯหมื่นล้าน" โดนพายุฝนเล่นงาน ระบบแอร์ล่ม ประตูพังกระจาย ต้นไม้ใหญ่โค่นล้ม
"เพื่อไทย" ดาหน้าสวน "เจี๊ยบ อมรัตน์" งับคลิปใส่ร้าย "อุ๊งอิ๊ง" วิ่งหนีสื่อ จวกสร้างคอนเทนต์ กลบคดียุบก้าวไกล
เกาะติดเหตุ "ชายเคราะห์ร้าย" ตกท่อร้อยสายไฟฟ้า ลาดพร้าว ย้ำ "กฟน." หน่วยงานรับผิดชอบ
เปิดภาพหาดูยาก "ทะเลขึ้นรา" หลังอุณหภูมิโลกสูงทะลุขีดจำกัด น้ำทะเลร้อนเกินเส้นวิกฤต
จีน ชม‘แสงเหนือ’ เหนือกำแพงเมืองจีนในปักกิ่ง
ญี่ปุ่น เล็งเปิดจองเที่ยวเม้าท์ฟูจิออนไลน์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น