รัฐบาลตั้งเป้าปี 73 มี 1.3 พันสถานีชาร์จ รองรับรถยนต์ไฟฟ้า

รัฐบาลตั้งเป้าปี 73 มี 1.3 พันสถานีชาร์จ เปิดแล็บทดสอบ EV Charger กำลังสูง รองรับธุรกิจหัวชาร์จไฟฟ้า ต่อยอดนโยบายรัฐบาลส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า กฟผ.-สวทช. เปิดตัวศูนย์ทดสอบอุปกรณ์อัดประจุรถยนต์ไฟฟ้ากำลังสูง 150 kW เพื่อรองรับผู้ประกอบการหัวชาร์จไฟฟ้าในประเทศ ลดการนำเข้า ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในระบบขนส่งสาธารณะ พร้อมเปิดให้บริการทดสอบ 15 ก.ค.นี้

วันที่ 5 สิงหาคม นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก จึงได้มีการออกมาตรการจูงใจเพื่อให้มีการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมสรรพกำลังส่งเสริมการผลิตที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งการผลิตแบตเตอรี่ การประกอบยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และการนำยานยนต์ไฟฟ้าไปใช้ขนส่งในระบบสาธารณะ ซึ่งขณะนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมเปิดตัวศูนย์ทดสอบอุปกรณ์อัดประจุรถยนต์ไฟฟ้ากำลังสูง 150 กิโลวัตต์ ตามมาตรฐาน IEC 61851 ณ ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี เริ่มให้บริการทดสอบ 15 ก.ค.2565 เป็นต้นไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการผลักดันระบบนิเวศน์ของการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายคือ การสร้างบรรทัดฐานด้านความปลอดภัยของระบบชาร์จสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าโดยสารสาธารณะ ทั้งบนถนนและแม่น้ำให้ได้ระดับมาตรฐานสากล ซึ่งสถานีชาร์จ นอกจากต้องมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม ปลอดภัย ครอบคลุมพื้นที่การเดินทางแล้ว สิ่งสำคัญคือ “มาตรฐาน” ที่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้าทั่วไป และยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง โดยศูนย์ทดสอบฯ จะเปิดให้ผู้ผลิตหัวชาร์จไฟฟ้านำผลิตภัณฑ์มาทดสอบเพื่อให้ได้มาตรฐาน ครอบคลุมการทดสอบหัวชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรงขนาดใหญ่ 150 กิโลวัตต์ สำหรับการใช้งานของรถโดยสารสาธารณะไฟฟ้า หัวรถลากไฟฟ้า และเรือเฟอร์รี เพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการในการส่งหัวชาร์จไปรับรองมาตรฐานที่ต่างประเทศ ลดต้นทุนในการผลิต ลดระยะเวลาในการพัฒนา ส่งผลให้ราคาของหัวชาร์จไฟฟ้าไม่สูงมาก สามารถแข่งขันในตลาดได้

 

นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมความร่วมมือของสองหน่วยงานดังกล่าว ที่ได้ขับเคลื่อนงานสำคัญและเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก อนึ่ง ศูนย์ทดสอบฯแห่งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาองค์ความรู้ การสร้างนวัตกรรมเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปอีกด้วย ขณะเดียว รัฐบาลยังได้ส่งเสริมการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อมากขึ้น โดยกระทรวงพลังงานได้ศึกษาจำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่เหมาะสมเพื่อรองรับการขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า กำหนดเป้าหมายให้ปี 2573 ควรมีสถานี 1,394 แห่ง และมีเครื่องอัดประจุไฟรวม 13,251 เครื่อง ปัจจุบันมี 944 แห่งทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มี.ค.2565)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สศร. เผยโฉมทัพศิลปินไทย-ต่างชาติกลุ่มสอง 15 ศิลปิน "กลุ่มศิลปิน" ร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยในงาน Thailand Biennale, Phuket 2025
"มหาดไทย" ขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินนราธิวาส สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
ยังไม่จบ "มาดามเมนี่" อัปเดตยังได้ของคืนไม่ครบ ยื่นคำขาด 10 วัน ลั่นขอเจรจา "ดิว อริสรา" ปมยืมของหรู
เปิดปฏิบัติการ "FOX Hunt" ทลายแก๊งหลอกลงทุน FOX Wallet ปลอม รวบ 8 สมาชิกจีนดำ-ไทยดำ ยึดทรัพย์กว่า 3 ล้านบาท
"บิ๊กต่าย" สั่งสอบ ตร.พาผู้ต้องหา ลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด
กรุงไทยนำเทรนด์! จับมืออินฟลูฯสายท่องเที่ยว สร้างปรากฏการณ์ TOURIST สู่ TOURICH ผ่าน Krungthai Travel Debit Card
สสจ.มุกดาหาร ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ "แอนแทรกซ์" เพิ่ม 1 ราย รอผลตรวจกลุ่มเสี่ยงอีก 3 ราย
TPIPL จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568
เพราะทะเลคือชีวิต ซีพีร้อยเรียงความดีผนึกชุมชน ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 76 ล้านตัว สร้างความยั่งยืนให้ชายฝั่งตราด
ไม่รอด จนท.จับรถบรรทุกแตงกวา ยัดไส้ขน "แรงงานต่างด้าว" ชาวเมียนมา ลอบเข้าประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น