“อดีตผู้พิพากษา” กาง รธน.ปม 8 ปี ชี้ “บิ๊กตู่” เพิ่งเป็นนายกฯ 3 ปี 1 เดือน เท่านั้น

“ชูชาติ” อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กางรธน.อธิบายปม 8 ปี ชี้ชัด “บิ๊กตู่” เพิ่งเป็นนายกฯ 3 ปี 1 ด. 6 วันเท่านั้น

วันนี้ นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน มาตรา 158 พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159 ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง

ข่าวที่น่าสนใจ

บทบัญญัติในมาตรา 158 วรรคสี่ ที่ว่า นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้นั้น ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 158 วรรคสอง ที่ว่านายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159

มาตรา 159 ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้ง เป็นนายกรัฐมนตรีจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 และเป็นผู้มีชื่ออยู่ ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 เฉพาะจากบัญชีรายชื่อของพรรค การเมืองที่มีสมาชิก ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

การเสนอชื่อตามวรรคหนึ่งต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร มติของสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องกระทําโดยการลงคะแนนโดยเปิดเผย และมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร

อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ระบุต่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 วรรคสอง โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562 คิดถึงปัจจุบันเป็นเวลาเพียง 3 ปี 1 เดือน 6 วันเท่านั้น การเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ก่อนวันที่ 9 มิถุนายน 2562 มิได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 158 วรรคสอง จึงนำเวลามารวมกันตามมาตรา 158 วรรคสี่ ไม่ได้การอ่านและตีความกฎหมายในกรณีที่มีหลายวรรคนั้น ต้องพิจารณาประกอบกันทุกวรรค มิใช่นำมาพิจารณาใช้เพียงวรรคเดียวโดยมิได้นำวรรคอื่นมาพิจารณาประกอบด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดีเอสไอ" เรียกสอบวิศวกรควบคุมงานสร้าง "ตึกสตง." ล็อต 2 เร่งหาข้อเท็จจริง สาเหตุพังถล่ม
เปิดเวทีฟังเสียงประชาชน หนุนเมืองอัจฉริยะเพื่อชุมชนอยู่ร่วมอย่างยั่งยืน สมาร์ทซิตี้ ขยายพื้นที่เพิ่ม 1,880 ไร่
ศาลฎีกาฯ ชี้สาเหตุตีตกคำร้อง "ชาญชัย" ปมทักษิณ นอนชั้น 14
"สาวไทย" ร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกชายเมียนมาบุกคอนโดฯ-ขู่ฆ่า 3 วันติด
"ชาญชัย" มาตามนัด เข้าฟังคำสั่งศาล ลุ้นรับ-ไม่รับ "คดีชั้น 14"
ไม่น่ารอด! มติกกต.ส่งศาลฎีกาฯ วินิจฉัยเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง "สว.หมอเกศ"
พระราชวัชรธรรมภาณี (สง่า สุภโร) เจ้าอาวาสวัดชลประธานรังสฤษดิ์ (อารามหลวง ) พร้อมพระสงฆ์ 30 รูป มอบพระไตรปิฎกให้ นายกัมพล ตันสัจจา เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องพระพุทธศาสนาในสวนนงนุชพัทยา
"สป.สายไหม" อ้างติดธุระ เลื่อนพบตร. ปมเอี่ยวเว็บพนัน "ผบช.สอท." ลั่นรอบหน้า 8 พ.ค.ไม่มา เจอออกหมายจับ
"อนุทิน" เชื่อคดีชั้น 14 "ทักษิณ" ไม่สร้างแรงกระเพื่อมการเมืองถึงรัฐบาล
ผู้ว่าฯปราจีน ทำหนังสือถึงปลัดมท. ขออภัยผิดพลาด ปมตั้งที่ปรึกษาชาวต่างชาติ เผย ‘หนุ่มจีน’ อาสาทำงานเอง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น