logo

หลานเขยเดือด ใช้จอบสับหัวน้าเขยเจ็บสาหัส หลังทะเลาะแย่งมรดกที่นา 2 ไร่

สุรินทร์-หลานเขยวัย 48 ปีเดือด ใช้จอบขุดดินสับหัวน้าเขยวัย 67 ปี หลังมีปากเสียงเรื่องแย่งที่ดินมรดก โดยมีอดีตผู้ใหญ่บ้านเหลือบไปเห็นเหตุการณ์ระทึก ขณะผู้ก่อเหตุคว้าจอบสับหัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2565  ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.ท่าตูม รับแจ้งจากนาย อนันต์ธนา สิมมา อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านตูม หมู่ที่ 1 บ้านตูม ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ว่าที่บริเวณป่าทาม ทางด้านทิศเหนือของบ้านตูม มีเหตุคนใช้จอบทำร้ายร่างกายกันได้รับบาดเจ็บสาหัส

ร.ต.อ.ธัชพล งามนิธิธนสุนทร ร้อยเวร สภ.ท่าตูม พร้อมหน่วยกู้ชีพ อบต.หนองเมธี ,หน่วยกู้ภัยปทุมทอง รุดไปยังที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บชื่อ นายสมพร พรหมบุตร อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ที่ 1 บ้านตูม ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ สวมใส่เสื้อเชิตสีขาว ก่งเกงขาสั้นสีดำ ลักษณะนอนหายใจรวยริน อยู่กลางทุ่งนา โดยมีแผลฉกรรจ์ที่บริเวณขมับขวา เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งรักษาตัวต่อที่ รพ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นหลานเขยของ นาย สมพร ชื่อ นาย วัชรินทร์ พิจารณ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 / 3 หมู่ที่ 1 บ้านตูม ต.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งหลังจาก นาย วัชรินทร์ ก่อเหตุก็ได้มีชาวบ้านมามุงดูกันเป็นจำนวนมาก นาย วัชรินทร์ จึงได้แจ้งกับชาวบ้านว่าจะไปมอบตัว และได้ขับขี่รถจักยานยนต์ พร้อมกับถือจอบที่ใช้ก่อเหตุ เดินทางไปยัง สภ.ท่าตูม เพื่อทำการมอบตัว

นายมนูญ นันไชย อายุ 67 ปี  อดีตผู้ใหญ่บ้าน ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะที่ตนเองกำลังเดินทางจะไปทุ่งนานั้น ตนเหลือบมองไปอีกด้านหนึ่งของทุ่งนา เห็นนายสมพร พรหมบุตร (ผู้บาดเจ็บ) ยืนเถียงกันกับ นายวัชรินทร์ พิจารย์ (ผู้ก่อเหตุ) สักพักหนึ่งก็มีเสียงดัง ‘พัวะ’ ตนเห็นว่า นายวัชรินทร์ ได้ใช้จอบสับตรงบริเวณขมับขวาของ นายสมพร (ผู้บาดเจ็บ) ล้มทั้งยืน ตนจึงรีบวิ่งเข้ามาห้ามปราม และได้แจ้งให้เพื่อนบ้านไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาที่เกิดเหตุ และแจ้งเหตุไปยัง สภ.ท่าตูม โดยที่นายวัชรินทร์ (ผู้ก่อเหตุ) ก็ไม่ได้หนีไปไหน  ก่อนจะไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นเมื่อ พ.ต.อ.สราวุฒิ ศรีวิฑูรย์ศักดิ์ ผกก.สภ.ท่าตูม ทราบข่าว จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน นำตัวนายวัชรินทร์ ผู้ก่อเหตุ พร้อมจอบที่ใช้ในการก่อเหตุ เดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยที่ทุ่งนาดังกล่าวเป็น ที่ดิน ‘มือเปล่า’ ไม่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เจ้าของที่ดินดังกล่าวมีเพียงสิทธิครอบครอง ห้ามซื้อขาย

 

โดยจากการสอบถามนาย วัชรินทร์ ผู้ก่อเหตุอ้างว่า เหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ นายสมพร (น้าเขย) จะมาแย่งที่นาของตนเองไปในเนื้อที่ 2 ไร่ ซึ่งตนเองได้ใช้ทำมาหากินมาตั้งแต่พ่อยังมีชีวิตอยู่ แต่ต่อมาน้องชายของตนเอง ได้แอบมาขโมยที่นาไปขายให้กับ นายสมพร (น้าเขย) โดยที่ตนเองไม่เคยทราบมาก่อน และขณะที่ตนเองจะเข้าไปทำนาทีไร ก็มักจะถูก นายสมพร (น้าเขย) พูดดูถูกเหยียดหยามบ่อยครั้ง จนครั้งนี้ตนเองทนไม่ไหว จึงได้ก่อเหตุขึ้น.

 

ภาพ/ข่าว สุทิศ บุญยืน
เรียบเรียง / กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เช็กเลย "ขสมก." จัดรถเมล์ฟรี 5 เส้นทาง ชมเห่เรือพระราชพิธี-จุดเทียนถวายพระพร "ในหลวง"
"มอเตอร์เวย์ ฟรี" วันหยุดยาว วันเฉลิมพระชนมพรรษา เช็กจุดที่นี่
ทั่วไทยเจอฝนฟ้าคะนอง 17 จว.อ่วม ฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ก็โดนด้วย
เพจกล้าที่จะก้าว นำเหยื่อ “แชร์ลูกโซ่ธุรกิจออมทอง” เข้าร้องเรียน ดีเอสไอ ภาค 1 หลังโดนโกงสูญเงินนับร้อยล้าน
"บิ๊กอุ้ม" ลุยบุรีรัมย์กับ "กสศ." แก้ปัญหาเด็กหลุดนอกระบบการศึกษา มอบ "สกร." ตามเด็กถึงบ้าน ตั้งเป้าเทอม 2/2567 "บุรีรัมย์เด็กดร็อปเอาต์เป็นศูนย์"
"อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท" ชื่อนี้มีที่มา ลุ้นเป็น "มรดกโลก" แห่งที่ 8 ของประเทศไทย
สถานทูตฯ เตือนคนไทยในฝรั่งเศส ระวังตัว หลังเกิดเหตุวินาศกรรมเผาเส้นทางรถไฟ
จนท.เฝ้าระวัง "น้ำป่า" ไหลหลากผ่ากลางโรงเรียน หวั่นอาคารถล่ม วิกฤติซ้ำซ้อน เด็กนร. โดนไฟช็อต เร่งหามส่งรพ.ด่วน
"อ.อ๊อด" ค้านใช้ไซยาไนด์กำจัด "ปลาหมอคางดำ" หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม
โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระราชาคณะ 5 รูป วัดโพธิ์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น