“บิ๊กเล็ก” สั่งคุมเข้มแท่นขุดน้ำมัน หวั่นเขมรก่อวินาศกรรม เร่งตรวจสอบโดรนปริศนาของฝ่ายไหน

“บิ๊กเล็ก” สั่งคุมเข้มแท่นขุดน้ำมัน หวั่นเขมรก่อวินาศกรรม เร่งตรวจสอบโดรนปริศนาของฝ่ายไหน

วันนี้ 19 ธ.ค.2568 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตกรณีที่กองทัพเรือเปิดเผยว่า พบโดรนกัมพูชามาบินในบริเวณใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย อาจประเมินได้ว่าเป็นความพยายามในการก่อวินาศกรรมของฝ่ายกัมพูชาหรือไม่ เพื่อตอบโต้ที่ไทยเข้มงวดการขนส่งน้ำมันและยุทธภัณฑ์เข้าไปในกัมพูช โดยพลเอกณัฐพล กล่าวว่าท่าทีของกัมพูชาในกรณีนี้อยู่ในขอบเขตที่ได้ประเมินไว้ ซึ่งไม่ใช่การมองในแง่ร้าย แต่เป็นไปเพื่อความไม่ประมาท แต่ยอมรับว่าน่านน้ำของไทย ยากต่อการเฝ้าตรวจการณ์ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพมาก แตกต่างจากพื้นที่บนบก ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตการณ์และพบโดรนได้ง่ายกว่า ซึ่งได้รับทราบจาก ศร.ชล.ว่าพื้นที่ทางทะเลของไทย ซึ่งมีเรือประมงกว่า 10,000 ลำ เรือต่างๆ เหล่านั้นก็บินโดรนของตัวเองด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าโดรนที่พบในอ่าวไทยนั้น เป็นโดรนของฝ่ายตรงข้ามหรือโดรนของไทย และมีความประสงค์ในการก่อวินาศกรรมหรือประสงค์ร้ายหรือไม่

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนจะต้องประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดหาระบบต่อต้านโดรน ดูแลความปลอดภัย ให้กับแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ตนได้รับทราบจากเครือข่ายของบริษัท ปตท. ว่ากำลังขออนุญาตที่จะจัดหาระบบต่อต้านโดรนมาติดตั้งในแหล่งขุดเจาะน้ำมันของ ปตท. เพราะถือว่าเป็นผลประโยชน์ของชาติ และอยู่ภายใต้การควบคุมของ กสทช. อยู่แล้ว สามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กองทัพอากาศ รับผิดชอบเรื่องการดูแลโดรนและความมั่นคง รวมทั้งได้พูดคุยกับกองทัพเรือ ซึ่งกองทัพเรือก็ได้เฝ้าดูในเรื่องนี้อยู่และได้ออกมาตรการเพิ่มเติมแล้ว ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากไม่ใช่การก่อวินาศกรรม อาจประเมินได้หรือไม่ว่าเป็นการข่มขู่จากฝ่ายกัมพูชา เพื่อสร้างความปั่นป่วนนั้น ในกรณีนี้ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ประเมินไว้เช่นกัน แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ว่าเป็นโดรของฝ่ายกัมพูชาจริงหรือไม่ และจะต้องตรวจสอบต่อไป

 

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึงกรณีที่เมื่อวานฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ภาพสามารถทำลายโดรนตรวจการณ์ของฝ่ายไทยได้ว่า ตนทราบว่าโดรนที่ตกคือรุ่น DP-20 หรือ D-eyes 04 ซึ่งเกิดจากการที่ฝ่ายกัมพูชาก็มีอาวุธต่อต้านอากาศยาน แม้ในช่วงที่ผ่านมา เราจะระมัดระวังอยู่ แต่ย้ำว่าในการรบย่อมเกิดความสูญเสียขึ้น หากเรามียุทโธปกรณ์แล้วไม่กล้านำมาใช้ ก็ไม่ถูกต้อง เราจึงต้องนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ปฏิบัติการ แต่ต้องหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ยอมรับว่าแม้จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นบ้าง ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แรงสะเทือนประจวบฯ! ภูมิใจไทยรวมดาวการเมืองท้องถิ่น เปิดเกมรุกเลือกตั้ง 8 ก.พ. 69
ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจเยี่ยมกำลังพล พร้อมมอบนโยบาย สภ.สันกำแพง
จังหวัดอุตรดิตถ์เปิดงานมหกรรมมวยไทยพระยาพิชัยดาบหัก SOFT POWER UTTARADIT
อุตรดิตถ์ เปิดงานลานวัฒนธรรม 8 วิถี พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล
พลาดไม่ได้ "ลายกนก ยกสยาม" สัมภาษณ์พิเศษ "ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล" ถ่ายทอดพระราชกรณียกิจ "องค์พ่อหลวง รัชกาลที่ ๙" ผ่านซีรีย์ยิ่งใหญ่ "มหาราชา"
“บิ๊กเล็ก” สั่งคุมเข้มแท่นขุดน้ำมัน หวั่นเขมรก่อวินาศกรรม เร่งตรวจสอบโดรนปริศนาของฝ่ายไหน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​