จากข้อมูลของ AFP รายงานว่า จำนวนผู้ป่วยรายวันในสัปดาห์นี้จนถึงวันพฤหัสบดี เฉลี่ยพุ่งขึ้นทำสถิติที่ 3.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ยังจัดว่าต่ำกว่าช่วงที่สายพันธุ์โอมิครอนเริ่มระบาดใหม่ๆ ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันนั้น ยังนับว่าเป็นเพียงส่วนน้อยนิดของจำนวนผู้ติดเชื้อจริง เนื่องจากแนวทางปฏิบัติในการนับและระดับการทดสอบในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน
อัตราการติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นหลักๆของสัปดาห์นี้ อยู่ที่แถบเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินเดีย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 57 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เขตละตินอเมริกา-แคริบเบียนเพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์ และที่ตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์ สำหรับฝรั่งเศสนั้น เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนการลดลงของผู้ติดเชื้อใหม่ในสัปดาห์นี้ ที่ไอร์แลนด์ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงมากที่สุดถึง 56 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยนามิเบียลดลง 51 เปอร์เซ็นต์ ไซปรัส 35 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สหราชอาณาจักรและกรีซ พบผู้ติดเชื้อน้อยลง 32 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่สหรัฐและแคนาดานั้น ลดลงไป 6 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาแบบรายคน ประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุดในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นเดนมาร์ก โดยมีผู้ป่วย 3,826 รายต่อประชากร 100,000 คน ตามมาด้วยอิสราเอล 3,589 รายต่อประชากร 100,000 คน, ฝรั่งเศส 3,496 รายต่อประชากร 100,000 คน, โปรตุเกส 2,796 รายต่อประชากร 100,000 คน, และสโลวีเนีย 2,733 รายต่อประชากร 100,000 คน
ด้านจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า เฉลี่ยมีผู้เสียชีวิตทั่วโลก 7,526 รายต่อวัน โดยเยอะที่สุดคือที่สหรัฐ ที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดที่ 1,969 รายต่อวัน รองลงมาคือรัสเซีย 698 รายต่อวัน และอินเดีย 380 รายต่อวัน