นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ตามที่เว็บไซต์สำนักข่าวแห่งหนึ่ง นำความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1213/2564 มาลงไว้ ซึ่งเป็นการตอบข้อหารือของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เกี่ยวกับการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนให้ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่า จะมีปัญหาความไม่ชอบตามมาหรือไม่นั้นความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย เนื่องจาก พล.ต.อ.สมยศ เคยเป็น สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเมื่อพ้นจากตำแหน่งวันที่ 14 มี.ค. 61 ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ด้วย โดย พล.ต.อ.สมยศ แจ้งว่ามีรายได้ต่อปีส่วนหนึ่งจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย รวม 2 รายการเป็นเงิน 3,645,000 บาท เมื่อตรวจดูบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินที่พล.ต.อ.สมยศ ยื่นต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งสนช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค.57 กลับไม่ปรากฏว่า มีรายได้และค่าคอบแทนจากนายกสมาคมฯ ดังกล่าว จึงอาจเชื่อได้ว่า รายได้และค่าตอบแทนนั้นได้มาระหว่างดำรงตำแหน่ง สนช.
นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องรายได้ของพล.ต.อ.สมยศ ดังกล่าว หากพิจารณาตามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา กับข้อเท็จจริงที่แจ้งบัญชีต่อป.ป.ช. จึงมีเหตุที่ต้องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าพล.ต.อ.สมยศ ในฐานะ สนช. ที่แจ้งว่ามีรายได้จากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯด้วยนั้น จะชอบหรือไม่ หรือจะเข้าข่ายมีการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตราใด หรือไม่ โดยจะส่งคำร้องไปทางไปรษณีย์อีเอ็มเอสในวันที่ 15 พ.ย.นี้