เดอะ พนมเปญโพสต์รายงานว่าสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลายสมัยออกแถลงการณ์พิเศษเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (พฤหัสที่ 29 พค.) ยืนยันกับชาวกัมพูชาว่าพื้นที่ที่เกิดยิงปะทะเป็นเวลาสั้นๆ 10 นาทีระหว่างทหารไทยและกัมพูชาเมื่อวานนี้ จนทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นายอยู่ในดินแดนของกัมพูชา ทั้งนี้จุดยิงปะทะเกิดขึ้นในพื้นที่ทับซ้อนที่อำเภอช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี แต่สื่อกัมพูชาอ้างว่าอยู่ในหมู่บ้านเตโช โมโรดก จังหวัดพระวิหาร
และเพื่อยืนยันว่าพื้นที่ปะทะเป็นของกัมพูชา ฮุนเซนกล่าวว่าตัวเขาเองยังเคยไปที่นั่นไปนั่งตรงจุดนั้นในปี 2552 แล้วจะมาอ้างว่าอยู่ในดินแดนของพวกเขาได้อย่างไร ผมไม่เชื่อ แล้วเรื่องอะไรทำไมทหารของเราจึงต้องมาเสียชีวิตที่นั่น (ซึ่งอยุ่ในดินแดนของกัมพูชา)
อย่างไรก็ตามฮุนเซนยืนยันว่าการที่กองทัพส่งกำลังพลและอาวุธหนักเข้าไปเสริมที่พรมแดนไม่มีเจตนาที่จะให้เกิดการเผชิญหน้ากับไทย แต่เพื่อต้องการให้มั่นใจว่ากัมพูชามีการเตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์รุนแรง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นระหว่างปี 2551-2554 ที่เขาพระวิหาร พร้อมกันนี้ก็บอกชาวกัมพูชาให้ไว้ใจรัฐบาลและเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพและขอให้ใจเย็นๆไว้
ฮุนเซนกล่าวว่าช่วงบ่ายวันนี้ ซเร ดึ๊ก รองผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชาและผู้บัญชาการกองทัพภาคสาม จะพบกับผู้บัญชาการเหล่าทัพของไทยเพื่อเจรจาและคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น และฮุนเซนหวังว่าหลังการพูดคุย สถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวจะกลับสู่ความสงบอีกครั้ง
ฮุนเซนยังได้ตอบคำถามที่มีการพูดกันในโซเชียลมีเดียถึงความพร้อมของกองทัพกัมพูชาในการรับมือกับทหารไทยที่มีการอ้างว่าเตรียมจะใช้เครื่องบินรบในการโจมตีกัมพูชา โดยฮุนเซนกล่าวว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ทำให้เกิดการยั่วยุ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง กัมพูชาเองก็มีการเตรียมความพร้อมเช่นกัน กัมพูชามีการเตรียมขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานไว้แล้ว ซึ่งผมสามารถตอบคำถามได้เพียงเท่านี้ และว่าเราพร้อมที่จะเปิดปฏิบัติการยิงเครื่องบินหากมีความจำเป็น
อย่างไรก็ตามฮุนเซนกล่าวว่าเขาเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะลุกลามบานปลายไปยังพื้นที่พรมแดนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทตาเมือนธมหรือปราสาทพระวิหาร พร้อมย้ำถึงความสำคัญของจำกัดการเผชิญหน้าว่าต้องไม่ให้ลุกลาม
ฮุนเซนกล่าวว่าผมหวังว่ารัฐบาลและคณะผู้บริหารของไทยจะไปชี้แจงให้คนไทยรับรู้ว่ากัมพูชาต้องการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และการเดินทางเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรในเดือนเมษายนได้ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือที่ดียิ่งขี้น การเผชิญหน้าเมื่อวานนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น พร้อมกล่าวเสริมว่ากัมพูชายังคงยึดมั่นที่จะสร้างสันติภาพ, มิตรภาพ, ความร่วมมือและการพัฒนาตามแนวพรมแดนต่อไป