ผู้เชี่ยวชาญกัมพูชาชี้ไทยเปลี่ยนผู้นำไม่ช่วยแก้ข้อพิพาทชายแดน

ผู้เชี่ยวชาญกัมพูชาชี้แม้ไทยจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่ก็จะอยู่ในตำแหน่งเพียง 4 เดือน สั้นเกินกว่าที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งพรมแดนที่ซับซ้อน, อ่อนไหวและมีมาอย่างยาวนาน พร้อมเตือนกัมพูชาให้ระวังทักษิณเอาคืนปมปล่อยคลิปเสียง

ขแมร์ไทม์สรายงานว่าเมื่อวานนี้ (อาทิตย์ที่ 7 กย.) นายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ผู้นำกัมพูชาได้ออกมาแสดงความยินดีกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หลังได้รับโปรดเกล้าขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมให้คำมั่นจะทำงานร่วมกับนายอนุทินเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์และความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างไทยกับกัมพูชาให้กลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้ง หลังเกิดเหตุปะทะที่บริเวณชายแดน

อย่างไรก็ตามนายกิน เพีย ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกัมพูชาไม่เชื่อว่าการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีไทยคนใหม่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชากลับมาเป็นปกติสุขเหมือนเดิม เนื่องจากมีเวลาบริหารประเทศเพียง 4 เดือนเท่านั้น สั้นเกินไปที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งชายแดนที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองและมีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อน

นายกิน เพียยังกล่าวหาไทยว่ามีความทะเยอทะยานอยากได้ดินแดนกัมพูชามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว การเปลี่ยนผู้นำไม่ได้ช่วยลดความทะเยอทะยานเหล่านี้ไปได้ และว่าการเมืองไทยถูกครอบงำด้วยกลุ่มชาตินิยมสุดโต่ง, กลุ่มอนุรักษ์นิยมและกองทัพซึ่งล้วนมีนโยบายที่ก้าวร้าวต่อกัมพูชา โดยเฉพาะกองทัพไทยมักนิยมใช้กำลังและอาวุธมากกว่าวิถีทางทางการทูต ถ้านายกฯไทยคนไหนมีท่าทีหรือนโยบายยืดหยุ่นกับกัมพูชา ก็เสี่ยงถูกมองว่าอ่อนแอ กระแสสังคมไทยก็มักมองว่าการก้มหัวให้กัมพูชาเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ คนไทยจำนวนมากชอบคาดหวังให้รัฐบาลใช้กำลังทหารเมื่อเกิดความขัดแย้งกับกัมพูชา แทนที่จะสนับสนุนให้เจรจาหรือปรองดอง การแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางการทูต

ด้านเน็ค จันทาริธ ผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศศึกษาและนโยบายสาธารณะของมหาวิทยาลัยพนมเปญก็เตือนให้กัมพูชาตื่นตัวและระมัดระวังนายทักษิณ ชินวัตรเอาไว้ให้ดี และว่าแม้จะแพ้เลือกตั้งและสูญเสียอำนาจทางการเมือง แต่ยังร่ำรวยและมีอำนาจมีทางการเงิน มีเครือข่ายทางธุรกิจกว้างไกล และเป็นผู้มีอิทธิพลในภูมิภาค อาจหาโอกาสกลับมาแก้แค้นกัมพูชาด้วยวิธีใดวิธิหนึ่ง เช่นกดดันทางเศรษฐกิจตามแนวพรมแดนไทย-กัมพูชา อย่างจุดผ่านแดนปอยเปต-อรัญประเทศ หรือไม่ก็อาจจ้างวานใครมาสร้างความแตกแยกภายในพรรค CPP ของกัมพูชาหริอใช้เส้นสายหน่วยงานระหว่างประเทศทำลายความน่าเชื่อถือกัมพูชาบนเวทีโลก

นายเน็คได้แนะนำให้กัมพูชาช่วงชิงโอกาสตอนที่ไทยขาดเสถียรภาพด้วยการกำหนดกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เช่นพยายามเข้าหากลุ่มผู้นำไทยที่เป็นคนรุ่นใหม่, ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่างฮุนเซนกับบุคคลสำคัญของไทยอย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาในการส่งเสริมการลาดตระเวนร่วมและลดกระแสชาตินิยมลง นอกจากนี้กัมพูชาควรเร่งรัดผลักดันนำข้อพิพาทชายแดนขึ้นศาลโลกและหาทางเรียกเสียงสนับสนุนจากผู้นำโลก

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายและสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแก่ประชาชน
“ไอซ์ รักชนก” โต้รัว ไร้ดีลช่วย 44 สส.ปชน.ปมคดี 112 โชว์หลักฐานพรรค เพิ่งเปิดรับสมัครสส.ใหม่มาแทน หากคนเดิมไม่รอดโทษผิด
ฝายน้ำล้นกั้นแม่น้ำปิงจังหวัดนครสวรรค์ถูกน้ำเซาะจนพังเสียหายชาวบ้านหวั่นภัยแล้งรุนแรงเพิ่มขึ้น
2 สาวใหญ่ ปลอมทะเบียนพาณิชย์ สวมรอยเจ้าของร้านอาหารดัง หวังหลอกกู้เงิน
สารทเดือนสิบ ยะลาคึกคัก คนแห่ซื้อขนมรับตา-ยาย
ลุงเอนกขนมหวานเมืองเพชร คว้ารางวัลใหญ่ระดับประเทศ2รางวัล ยังได้รับสิทธิ์ไปเวทีนานาชาติที่ญี่ปุ่น

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​