สามผู้นำตะวันตก ระบุในแถลงการณ์ว่า การที่อิสราเอลประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (18 พ.ค.) อนุญาตให้ส่งความช่วยเหลือมนุษยธรรมเข้าฉนวนกาซ่าได้อย่างจำกัด ยังไม่เพียงพอ และความล้มเหลวของอิสราเอลในการช่วยเหลือพลเรือนในกาซา เป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ และเสี่ยงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ อิสราเอลควรทำงานร่วมกับสหประชาชาติเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) รถบรรทุกความช่วยเหลือ 5 คัน แล่นเข้าไปในฉนวนกาซ่าครั้งแรก นับจากอิสราเอลปิดกั้นการส่งความช่วยเหลือเกือบสองเดือน เพื่อกดดันฮามาสปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ โดยอิสราเอลอ้างว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์ที่เข้าไปในกาซาช่วงหยุดยิง 6 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น มีมากเพียงพอแล้ว และเป็นฮามาสที่ขโมยไปบางส่วน แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ เจ้าหน้าที่ในกองทัพอิสราเอล เริ่มเตือนฝ่ายการเมืองว่า สถานการณ์ในกาซาหมิ่นเหม่ภาวะอดอยาก นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ตัดสินใจรื้อฟื้นการส่งความช่วยเหลือพื้นฐานเมื่อวันอาทิตย์ (19 พฤษภาคม) โดยบอกชัดเจนว่า เป็นการตัดสินใจด้วยเหตุผลทางการทูต
แต่ขณะที่ความช่วยเหลือเริ่มทยอยเข้าไป กองทัพอิสราเอลเดินหน้าปฏิบัติการครั้งใหม่ ภายใต้ชื่อเรียกขาน “กีเดียนส์ ชาเรียตส์” (Gideon’s Chariots) มุ่งยึดครองกาซา ทำลายตึกรามบ้านช่องที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ กวาดล้างฮามาส ขัดขวางกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เข้ามาควบคุมเสบียงบรรเทาทุกข์ และโยกย้ายชาวปาเลสไตน์จากกาซาเหนือลงไปทางใต้
อังกฤษ ฝรั่งเศส และแคนาดา ปฏิเสธแผนบังคับพลเรือนกาซาย้ายถิ่นฐานถาวร ขณะเดียวกันก็เรียกร้องฮามาส ปล่อยตัวประกันที่กักขังไว้อย่างโหดเหี้ยมทารุณมาตั้งแต่ 7 ตุลาคม 2566 แถลงการณ์ระบุว่า อิสราเอลถูกโจมตีอย่างน่ารังเกียจเมื่อ 7 ตุลาคม และทั้งสามสนับสนุนสิทธิปกป้องกันตัวเองต่อลัทธิก่อการร้าย แต่การยกระดับตอบโต้จนถึงเวลานี้ ไม่ได้สัดส่วนอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ อังกฤษ ฝรั่งเศส และแคนาดา ยังคัดค้านการขยายนิคมในเวสต์แบงก์ ที่จะบั่นทอนการมีอยู่ของรัฐปาเลสไตน์ และจะไม่ลังเลในการดำเนินมาตรการขั้นต่อไป รวมถึง “แซงชั่นอย่างมีเป้าหมาย” หากอิสราเอลยังไม่หยุดขยายนิคม
ขณะที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู โต้กลับว่า อังกฤษ แคนาดาและฝรั่งเศส กำลังหยิบยื่นรางวัลใหญ่ ให้กับฮามาสที่ก่อเหตุสังหารหมู่ในอิสราเอลเมื่อ 7 ตุลาคม และเป็นการเชื้อเชิญการเข่นฆ่าแบบเดียวกันซ้ำอีก
แถลงการณ์จากสำนักงานนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ระบุว่า สงครามยุติได้เลยในวันพรุ่งนี้ หากฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่เหลืออยู่ วางอาวุธ บรรดาผู้นำฆาตกรของฮามาส ออกไปลี้ภัย และกาซาเป็นเขตปลอดทหาร อิสราเอลจะไม่ยอมรับอะไรที่น้อยไปกว่านี้ และเรียกร้องให้ผู้นำยุโรปยอมรับวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นไปในทางเดียวกับอิสราเอล คือการยึดครองกาซา โยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไป และคัดค้านแนวทางสองรัฐ ที่สามผู้นำเชื่อว่าเป็นทางออกของสันติภาพที่ดีที่สุด เนทันยาฮู ประกาศว่า นี่คือสงครามแห่งอารยธรรมพิชิตลัทธิป่าเถื่อน และอิสราเอลจะเดินหน้าปกป้องตัวเองจนกว่าจะได้ชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จ
วันเดียวกัน ยังมีแถลงการณ์ร่วมอีกฉบับ ลงนามโดยรัฐมนตรีต่างประเทศจาก 22 ประเทศผู้บริจาค รวมถึงเยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เรียกร้องให้อิสราเอล เปิดทางรื้อฟื้นส่งความช่วยเหลือเข้ากาซ่าทันที หลังจากอิสราเอลยกเลิกการปิดกั้นแค่บางส่วน เพราะผู้คนในดินแดนที่ถูกทำลายล้างจากสงคราม กำลังเผชิญความอดอยาก และต้องได้ความช่วยเหลือจำเป็นอย่างเร่งด่วน