“ธนกฤต” อ้างรอข้อมูลแพทยสภา นำพิจารณาปมลงโทษ 3 หมอ ขอใจกว้าง ๆ “ทนายแดง” ร่วมคกก. ยันยึดข้อเท็จจริง กม.เป็นสำคัญ

"ธนกฤต" อ้างรอข้อมูลแพทยสภา นำพิจารณาปมลงโทษ 3 หมอ ขอใจกว้าง ๆ "ทนายแดง" ร่วมคกก. ยันยึดข้อเท็จจริง กม.เป็นสำคัญ

“ธนกฤต” อ้างรอข้อมูลแพทยสภา นำพิจารณาปมลงโทษ 3 หมอ ขอใจกว้าง ๆ “ทนายแดง” ร่วมคกก. ยันยึดข้อเท็จจริง กม.เป็นสำคัญ

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

20 พ.ค. 2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม คณะกรรมการเสนอความเห็นแพทยสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ กรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรม ได้แถลงข่าวถึงผลการประชุม ครั้งนี้

 

 

นายกองตรี ธนกฤต เผยว่า การประชุมวาระแรก เป็นเการแนะนำตัวทั้ง 10 คน พิจารณาเรื่องเอกสารที่ได้รับจากทางแพทยสภา คณะกรรมการมีความเห็นว่ามีเอกสารบางส่วนที่ยังขาดอยู่ในเรื่องของการพิจารณาขั้นตอนต่าง ๆ ของแพทยสภา หากเอกสารได้เร็วคณะกรรมการก็จะเร่งสรุป เพราะมีกรอบระยะเวลาในการทำงานค่อนข้างสั้น เมื่อได้เอกสารแล้วมีความเห็นอย่างไร ในเรื่องของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เป็นหลักในการพิจารณา และต้องส่งคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายบุคคล และในเอกสารพบว่ามีทั้งหมด 4 ราย ที่มีการกล่าวโทษ เมื่อพิจารณาแล้วมีความเห็นว่าจะเร่งประชุมในสัปดาห์นี้ หากเอกสารจากแพทย์สภาส่งมาไว้แล้วก็จะพิจารณาให้แล้วเสร็จ แต่ถ้าเลยกรอบเราจะมีการประชุมพิจารณาอีกครั้งวันที่ 26 พฤษภาคม เวลา 14.00 น. และสรุปความเห็นทั้งหมดเพื่อนำเสนอต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ว่ามีความเห็นเหมือนกันหรือความเห็นต่าง จะยับยั้งอย่างไร และเสนอต่อแพทยสภาไม่เกิน 29-30 พฤษภาคม ตอนนี้อยู่ในการนำเสนอสภานายกพิเศษ ทำให้ไม่สามารถลงรายละเอียดได้สะดวก

เมื่อถามว่า ข้อมูลที่ขาดเป็นข้อมูลประเภทไหนที่ต้องขอ นายกองตรี ธนกฤต เผยว่า ขาดเอกสารตั้งแต่การรับเรื่องราวร้องทุกข์ต่อเลขาธิการแพทยสภา เมื่อพิจารณาแล้วมีมูลหรือไม่มีมูลก็จะส่งไปที่คณะจริยธรรม คณะกลั่นกรอง และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง นี่คือกระบวนการที่ต้องดูในรายละเอียดเพื่อนำมาเสนอพิจารณาต่อไป

ส่วนเอกสารตัวนี้จะเป็นตัวชี้ขาดว่าวีโต้ในประเด็นไหนหรือไม่ นายกองตรี ธนกฤต เผยว่า คณะกรรมการแต่ละท่านเป็นอิสระ ยังไม่มีข้อยุติแนวทางที่จะพิจารณาว่าจะไปในแนวทางใด ข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายเป็นตัวตั้ง หากไปกันได้หรือมีบางส่วนที่ขาด จำเป็นต้องพิจารณาเห็นต่าง หรือข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างที่แพทยสภาเสนอและข้อกฎหมายรองรับ เราก็เห็นด้วยกับแพทยสภา ตอนนี้ยังเป็นความเห็นที่อิสระอยู่

 

 

ตอนนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าหนึ่งในคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เคยออกมาปกป้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะทำให้ถูกมองว่ากรรมการไม่เป็นกลางหรือไม่ นายกองตรี ธนกฤต ย้ำว่า “ต้องเปิดใจให้กว้างๆ ตอนนี้พิจารณาเรื่องของแพทยสภามีความเห็นลงโทษหมอที่เกี่ยวข้อง เราพยายามไม่กล่าวถึงเรื่องการเมือง หรือบุคคลภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับพรรคการเมือง เป็นความเห็นส่วนตัว ท่านจะแสดงความเห็นส่วนตัวก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ความเห็นกรรมการชุดนี้ พิจารณาหมอเป็นหลัก”

เมื่อถามว่า 10 ท่าน ที่เป็นคณะกรรมการ ส่วนใหญ่เป็นนักกฎหมาย มีความคิดเห็นอย่างไรที่สังคมมองว่า เป็นคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหาช่องโหว่ทางกฎหมาย เพื่อมีเหตุผลในการวีโต้ นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้เพิ่งรู้จักกันวันนี้วันแรก พิจารณาเรื่องข้อกฎหมายกับข้อเท็จจริง แต่ในคณะกรรมการชุดนี้มีหมออยู่ด้วย เพราะบางเรื่องต้องใช้ความเห็นจากการแพทย์

“จะรู้จักใครหรือไม่ นายสมศักดิ์ คงพิจารณาจากคนที่ท่านไว้วางใจในการดูเอกสาร เพราะแต่ละคนทำความเห็นอย่างตรงไปตรงมาให้รัฐมนตรี ตนเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ท่านก็ต้องส่งตนเข้าไปดูแล อย่างน้อยต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบในทุกด้าน ตนมีความจำเป็นต้องดูแลเอกสารต่างๆ หรือข้อกฎหมายให้ชัดเจน ท่านต้องเลือกคนที่ไว้วางใจในการพิจารณา”

มีความกังวลใจหรือไม่ว่าข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมาย หากไม่สอดคล้องจะทำให้แพทยสภาและผู้เกี่ยวข้องจะไปตกที่ศาลปกครอง ในการพิจารณาลงโทษแพทยสภาว่าวินิจฉัยผิด นายกองตรี ธนกฤต ระบุว่า ที่การพิจารณาข้อกฎหมายแพทยสภา และสภานายกพิเศษมีความเห็นเหมือนกัน เรื่องไปถึงศาลปกครองมีคำสั่งกับแพทยสภา เป็นองค์ประกอบที่ต้องดูให้ละเอียด เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ แพทยสภาต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ดำเนินการไป ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น พอในยุคของ นายสมศักดิ์ ต้องรอบคอบเพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะกองกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่มีความเห็นของสภานายกพิเศษอยู่แล้ว ไม่ถือว่าผิดปกติอย่างใด

เมื่อถามย้ำว่า เอกสารที่ขอเพิ่มเติมเป็นเอกสารขั้นตอนการพิจารณาของอนุกรรมการต่างๆ ของแพทยสภาหรืออนุกรรมการชุดใหญ่ นายกองตรี ธนกฤต เผยว่า บางส่วนที่ขาดเปรียบเสมือนข้าวโพดที่หล่อไปหนึ่งซี่ ก็ต้องไปขอเอกสารที่ขาดมาเติมให้เต็ม เป็นสาระสำคัญในการพิจารณาทั้งหมด เอกสารที่ส่งมาพิจารณาได้ในระดับหนึ่ง เพียงแต่ต้องรอตามกรอบเวลาในการทำงานให้ทัน

เมื่อถามว่า ฟันหลอเกี่ยวกับขั้นตอนการพิจารณาของอนุกรรมการแพทยสภาหรือไม่ นายกองตรี ธนกฤต รับว่า ใช่ครับ เป็นเอกสารของแพทยสภาทั้งหมด เราไปขอเอกสารอื่นไม่ได้ เพราะเราพิจารณาเรื่องหมอที่ถูกทำโทษ

การพิจารณาครั้งนี้ในเรื่องของเวชทะเบียน และการรักษาต่างๆ แพทย์ที่อยู่ในคณะกรรมการ แพทย์ที่เชี่ยวชาญการรักษาหรือไม่ นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า เอกสารเวชทะเบียนและข้อกล่าวหา คณะกรรมการก็ดูว่าเกี่ยวข้องตรงไหนได้ถามหมอที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นเรื่องการวินิจฉัย ไม่ใช่เรื่องการรักษา แต่เป็นเรื่องเอกสารที่หมอสามารถอธิบายได้ หากเรามีข้อสงสัยในประเด็นเรื่องการรักษามุมใด ถ้าเกี่ยวข้องกับสำนวนในคดีนี้สามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ไม่มีปัญหาเรื่องการวินิจฉัย เพราะแต่ละอย่างก็จะมีดุลพินิจแพทย์ประกอบ

“หากเห็นชอบก็ไม่ต้องมีข้อโต้แย้ง แต่ถ้าจะยับยั้งแพทยสภาต้องมีความเห็นว่าเพราะอะไรถึงยับยั้ง และเรื่องอะไร ยับยั้งแบบไหนก็เป็นดุลพินิจของท่าน คณะกรรมการไม่มีหน้าที่ชี้นำ ให้เห็นตามพวกเรา แต่ละคนอาจจะมีความเห็นแตกต่างกัน เราไม่เคยมีธง เราเดินตามเอกสารที่มีอยู่ถึงจะชัดเจนว่าเพราะอะไรถึงมีความเห็นแบบนี้ เอกสารที่อยู่ในมือคือเอกสารของแพทยสภาทั้งหมด ไม่รับเอกสารจากบุคคลภายนอก เขามีมูลอย่างไรให้ดูเอกสารของแพทยสภา หรือการเข้ามาในคณะอนุจริยธรรมมีความเห็นอย่างไรในเรื่องจริยธรรม ต้องเอามาประกอบกันว่าเป็นในอำนาจหน้าที่หรือไม่ ต้องให้นักกฎหมายมาช่วยตีความ จึงมีความหลากหลายของผู้ที่เข้ามาพิจารณาเรื่องนี้”

ส่วนจะมีการพิจารณาเรื่องการป่วยว่าวิกฤตจริงหรือไม่นั้น นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า เราดูเรื่องลงโทษแพทย์อย่างไร ป่วยหรือไม่ป่วย คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ได้อยู่ในสำนวนนี้ แต่มองเรื่องที่หมอที่ถูกลงโทษเพราะอะไร ตนยังอ่านไม่เจอ แต่ใครจะเจอไม่เจอตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่า การลงโทษแพทยสภาดูว่าไม่เหมาะสมใช่ไหม ถึงต้องมีการพิจารณาการลงโทษ นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมก็จะคุย เพื่อจะเป็นข้อคิดเห็นให้กับ นายสมศักดิ์ สรุปในครั้งสุดท้าย และมีมติส่งไปแพทยสภา จบเลยใครจะขัดไม่ได้ แต่ของแพทยสภาต่างกันตรงที่สามารถตีกลับให้คณะกรรมการพิจารณาใหม่ จึงไม่น่ามีกังวลอะไร ขอให้ประชาชนอย่างกังวล

ส่วนเอกสารที่มีการพิจารณาเป็นของผู้ร้องเรียนด้วยใช่หรือไม่ นั้น หนังสือของผู้ร้องเรียนผ่านที่กระทรวงสาธารณสุข แต่ตนต้องการที่จะสื่อถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่านถือหมวกอยู่สองใบ หากเห็นตรงกันก็ไม่จำเป็นต้องพิจารณาเพิ่มเติม แต่จะเป็นประโยชน์มาเป็นแนวทางพิจารณาต่อไปก็เป็นสิทธิ แต่ขณะนี้หนังสือดังกล่าวยังไม่ผ่านคณะกรรมการ

“ตอนนี้ขอให้คณะกรรมการมีความพร้อม อย่าพึ่งรับภาระอื่น ถ้าเร็วผมก็เร็วถ้าช้าผมก็ช้า เอกสารเยอะแยะ ไม่หลับไม่นอนสามวัน เป็นเรื่องที่ทุกคนสนใจ แภทยสภาแก้ไม่เกิน 15 วันก็จะเป็นเรื่องดี จะได้มีเวลาอ่านหนังสือ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เขมร" เมินไม่ร่วม "สีหศักดิ์" ประกาศจุดยืนไทย จับมือ UNODC ประชุมนานาชาติ 58 ประเทศ เดินหน้าต้านสแกมเมอร์ภัยคุกคามโลก
สภ.เมืองโคราช ประชุมขับเคลื่อนงานมั่นคง–ย้ำตำรวจทำงานเชิงรุก ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ทหารแนวหลังเอาจริง หน่วยงานความมั่นคงผนึกกำลัง ปูพรมกวาดล้าง 'โดรนสอดแนม' ชายแดนจันทบุรี-ตราด ป้องอธิปไตย สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน
ด้อมส้มเสียงแตก "ตรัยวรรธน์" อดีตสส.พรรคประชาชน สมุทรปราการ ซัดเดือดระบบเผด็จการ โดนสั่งถอนตัวเป็นผู้สมัครสส.
เมืองเบตงเนรมิตอุโมงค์มงคลฤทธิ์ เติมแสงสีรับนักท่องเที่ยวปีใหม่
รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ฯ มอบเงินช่วยเหลือเยียวยากำลังพลได้รับผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​