โพลล์เผยชาวฝรั่งเศสสุดหวั่นการโจมตีของผู้ก่อการร้ายครั้งใหม่ หลังเหตุกราดยิงในรัสเซีย
ผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีชี้ว่า ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากกลัวว่า จะเกิดเหตุโจมตีก่อการร้ายครั้งใหม่ ในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้า หลังเกิดเหตุกราดยิงในรัสเซีย
การสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้น หลังจากโศกนาฏกรรมผู้ก่อการร้าย โจมตีสถานที่แสดงคอนเสิร์ต นอกกรุงมอสโก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และไม่กี่เดือนก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2024 ที่กรุงปารีส เผยให้เห็นถึงความกังวลอย่างมีนัยสำคัญ ต่อเหตุโจมตีที่อาจเกิดขึ้น โดยผลรวมคะแนนเฉลี่ยระดับความกลัวของผู้ตอบแบบสอบถาม อยู่ที่ระดับถึง 7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งระดับ 0 หมายถึง ความกลัวระดับน้อยที่สุดต่อการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ขณะที่ ระดับ 10 แสดงถึงความกังวลสูงสุด
การสำรวจนี้ดำเนินการโดยสถาบัน CSA เมื่อวันที่ 26 และ 27 มีนาคม ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1พัน 13 คน และผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภัยคุกคาม ที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย มากกว่าผู้ชาย โดยคะแนนเฉลี่ยของผู้ตอบแบบสอบถามหญิงอยู่ที่ 7.3 เทียบ กับคะแนนของผู้ชายที่ 6.7 คะแนน
การวิเคราะห์ตามกลุ่มอายุพบว่า กลุ่มหนุ่มสาว โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลในประเด็นนี้มากที่สุด โดยผู้ที่มีอายุ 35 ถึง 49 ปีมีความกังวลน้อยกว่า ในขณะที่ความกลัวจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในกลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
ผู้ทำการสำรวจระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจสะท้อนถึงปัจจัยหลายประการ รวมถึงความแตกต่างในการมีส่วนร่วมในภาคสังคม การเปิดรับแหล่งสื่อ และความอ่อนไหวต่อนโยบายสาธารณะ
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้น มาตั้งแต่เกิดการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเดือนมกราคม 2558 เมื่อกลุ่มอิสลามิสต์กลุ่มหนึ่ง สังหารผู้คน 17 คนในปารีสและชานเมือง และในเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น ฝรั่งเศสเผชิญกับการโจมตีของกลุ่มอิสลามิสต์ที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อมือระเบิดฆ่าตัวตายและมือปืนโจมตีคอนเสิร์ตฮอลล์ สนามกีฬา ร้านอาหาร และบาร์ในกรุงปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 130 คน ซึ่งหลังจากเหตุโจมตีของผู้ก่อการร้ายในรัสเซียเมื่อวันศุกร์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 143 คน ฝรั่งเศสได้ยกระดับการแจ้งเตือนการก่อการร้ายทั่วประเทศขึ้นสู่ระดับสูงสุด และเตรียมการซ้อมรับมือภัยก่อการร้าย
