ผู้ว่าฯนครพนม นำทีมเยี่ยมให้กำลังใจศิลปินเรือไฟ พร้อมชวนเที่ยวสัมผัสเรือไฟ แบบ 3 มิติ

ผู้ว่าฯนครพนม นำทีมเยี่ยมให้กำลังใจศิลปินเรือไฟ พร้อมชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสเรือไฟ แบบ 3 มิติ

วันที่ 21 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงเลียบถนนสุนทรวิจิตร เทศบาลเมืองนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ศิลปินเรือไฟของแต่ละอำเภอที่กำลังเร่งประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเรือไฟ ไม่ว่าจะเป็น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ที่ใช้เป็นทุ่นรองรับโครงสร้างเรือไฟที่ทำมาจากไม่ไผ่ โดยใช้ลวด ตะปู และยางรถจักยานยนต์ มาตัดและมัดเพื่อยึดชิ้นส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกันให้กลายเป็นเรือไฟขนาดใหญ่ ใช้เป็นประทีปพุทธบูชาในช่วงวันออกพรรษา ภายใต้งานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ประจำปี 2565 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-11 ตุลาคม 2565

นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีเก่าแก่หนึ่งเดียวในโลกที่ชาวนครพนมถือปฏิบัติเป็นประจำทุกปีในช่วงวันออกพรรษา ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านการจัดงานอยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ แต่ในปีนี้ที่สถานการณ์คลี่คลายมากขึ้น ดังนั้นทุกคนจึงได้พร้อมใจกันจัดสร้างเรือไฟที่มีขนาดใหญ่ จำนวน 12 ลำ โดยจากการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและสอบถามศิลปินเรือไฟ พบว่ามีเรือไฟขนาดต่าง ๆ ประกอบไปด้วย ขนาดความยาว 60 เมตร จำนวน 4 ลำ ขนาด 65 เมตร 2 ลำ ขนาด 69 เมตร 2 ลำ ขนาด 70 เมตร 3 ลำ และขนาดใหญ่สุด คือ 80 เมตร จำนวน 1 ลำ โดยลวดลายของแต่ละลำก็จะมีความเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละท้องถิ่น ที่สอดแทรกเรื่องราวของชุมชนตัวเองเอาไว้แต่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ในเรื่องของเทคนิคการตกแต่งลวดลายนั้นบอกได้เพียงว่าจะมีการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีเข้ามาเสริม เพื่อให้เรือไฟที่จัดสร้างมีความสวยงามโดดเด่นตามจินตนาการและการออกแบบที่ได้วางเอาไว้ เพื่อสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือน เช่น ของอำเภอนาหว้าจะทำให้เรือไฟในยามค่ำคืน เวลามองเห็นเป็นลวดลายแบบ 3 มิติ ที่ลอยเด่นออกมาจากตัวเรือไฟมุมมองแต่ละมุมจะให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ส่วนของอำเภอศรีสงครามที่เป็นแหล่งปลาแม่น้ำโขง ก็จะทำให้ลวดลายเป็นสายน้ำเคลื่อนไหวได้มีปลาแวกว่ายอยู่เหนือน้ำ ส่วนอำเภอโพนสวรรค์ที่ปีนี้จัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่สุด จะมีการประดับตกแต่งลวดลายด้วยตะเกียงไฟมากถึง 25,000 ดวง ส่วนเรือไฟของอำเภออื่น ๆ ก็จะมีจินตนาการที่แตกต่างกันออกไป จึงอยากขอเชิญชวนทุกคนให้ได้มาสัมผัสความงดงามแห่งสายน้ำในครั้งนี้ไปพร้อมกัน โดยการไหลเรือไฟนั้นจะมีการไหลโชว์วันละ 1 ลำ และในวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ที่เป็นวันออกพรรษาจะไหลพร้อมกันทั้ง 12 ลำ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกร่วมสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น เรือไฟโบราณที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนไม่ร่วมสะเดาเคราะห์ อธิฐานขอพร ด้วยการประดิษฐ์เรือไฟขนาดเล็กไปวางในเรือไฟโบราณที่เมื่อประกอบพิธีเสร็จจะมีการนำไปลอยกลางแม่น้ำโขงเช่นเดียวกับเรือไฟขนาดใหญ่ การรับชมการประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ พิธีรำบูชาพระธาตุพนม การแสดงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชนเผ่า การเดินแบบผ้าไทย การประกวด To Be Number One การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง การแสดงดนตรีของศิลปินชื่อดัง การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม รวมถึง กิจกรรมกาชาดเพื่อหารายได้ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ในพื้นที่.

 

ภาพ/ข่าว ประทีป วชิระธัญญากูล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครพนม

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชุมชนหมู่บ้านพฤกษา 20 จัดงานนมัสการหลวงพ่อพุทธโสธร (องค์จำลอง) ครบรอบปีที่ 10 อย่างยิ่งใหญ่ ต้อนรับปลายปี–ปีใหม่
เปิดนิทรรศการ “กากเหล้าแดง” มรดกอาหารจีนฮกจิว
ตร.นครสวรรค์ เร่งคลายปมชายถูกฆาตกรรม หัวขาด กลางไร่อ้อย ตำรวจชี้อาจป่วยตาย แต่ญาติยังติดใจเรื่องการตาย
แม่ใจสลาย! กลับจากทำบุญ พบ ลูกชายป่วยซึมเศร้า กรีดแขนลาโลกคาเตียง!
"นายกฯอนุทิน" ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวบ้านศูนย์พักพิง "บุรีรัมย์-สุรินทร์" ลั่น "ทนได้ก็ทนไป" กัมพูชาไม่เจรจา ไม่รับผิดชอบผิดละเมิด
ปู่ฤาษีพรหมเมศศักดิ์สิทธิ์ลูกศิษย์นำฟักทอง 999 ลูกแก้บนไม่พลาดส่องเลขเทวะบันดาลอ่างน้ำมนต์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​