นายกฯ เตือนลอบขายยาโควิด19 เถื่อนโทษทั้งปรับและจำคุก

โฆษกรัฐบาลเผย "นายกฯ" ขอกลุ่ม 608 และเด็กนักเรียน เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อลดเหตุที่ทำให้อาการหนักและเสียชีวิต พร้อมเตือนผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยารักษาโควิด-19 โดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกจับกุม ต้องรับโทษทั้งปรับและจำคุก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ (5 กรกฏาคม 2565) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยรายใหม่ (รักษาตัวในโรงพยาบาล) จำนวน 2,253 ราย โดยเป็นผู้ป่วยในประเทศทั้ง 2,253 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,377,543 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ขณะที่หายป่วยกลับบ้าน 2,483 ราย รวมหายป่วยสะสม 2,379,845 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) โดยมีผู้ป่วยกำลังรักษา 21,113 รายและเสียชีวิต 34 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 9,828 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ทั้งนี้มีจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 911 ราย ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. 2564 – 3 ส.ค. 2565 รวมทั้งสิ้น 141,722,388 โดส (ซึ่งรวมยอดสะสมการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด – 19 แก่กลุ่มเด็กอายุ 5 – 11 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 3 ส.ค. 2565 จำนวน 5,536,728 โดส) จำแนกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57,147,522 โดส วัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 53,516,671 โดส และวัคซีนเข็มที่ 3 (ขึ้นไป) จำนวน 31,058,195 โดส

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะตัวเลขผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตที่มีนัยเพิ่มขึ้น ซึ่งรายงานพบว่าส่วนใหญ่ของผู้ที่มีอาการหนักและเสียชีวิตยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นและอยู่ในกลุ่ม 608 จึงขอให้ประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 และเด็กนักเรียน เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมมากขึ้น

 

ซึ่งขณะนี้สถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนหลายแห่งได้มีการเปิด walk in เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนฟรีสำหรับประชาชนแล้ว พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังย้ำไปถึงประชนให้หลีกเลี่ยงการซื้อยาเถื่อนรักษาโควิด-19 มารับประทานเอง เพราะหากได้รับยาที่ไม่มีคุณภาพทำให้เกิดการดื้อยา และไม่หายจากการเจ็บป่วย รวมทั้งยังเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นส่งผลถึงชีวิตได้ และขอเตือนผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยารักษาโควิด-19 โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ต้องรับโทษทั้งปรับและจำคุก ซึ่งหากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะมีการดำเนินคดีถึงที่สุด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ซูเปอร์โพล" ชี้ช่องรัฐสร้างความสุขคนไทย ควรเร่งหามาตรการลดค่าครองชีพ ส่งเสริมกิจกรรมครอบครัว-ชุมชน
ชัยภูมิสุดคึกคัก ชาวบ้านร่วมประเพณี "แห่นาคโหด" ซอฟต์พาวเวอร์ หนึ่งเดียวในโลก
ปชช.เฝ้ารับเสด็จฯ ‘ในหลวง-พระราชินี’ เนื่องแน่น ในพระราชพิธีวันฉัตรมงคล
"กรรมการสภาวิศวกร" ชี้เพิ่มสาเหตุตึกสตง.ถล่ม คาใจมีใครสั่งการ? การตรวจสอบเจาะจง เลี่ยงจุดมีปัญหา
"พลภูมิ" เปิดงาน "เที่ยวชุมชน ยลวิถี" บ้านชากแง้ว ชูต้นแบบวัฒนธรรมไทย–จีน พลิกชุมชนสู่ Soft Power ระดับประเทศ
นายกฯ ย้ำ "เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ" ไม่ใช่เงินรัฐ "กาสิโน" ยึดโมเดลสิงคโปร์ ท่องเที่ยวแบบ Man made สร้างรายได้เข้าปท.
สมช.ประณามโจรใต้ไร้อารยะ ทำกับผู้หญิง-เด็ก-ผู้สูงอายุ ลั่นจะนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด
"นายกฯ" สื่อมั่นใจเจรจาภาษีการค้าสหรัฐฯ ลั่นมีดีลลับต่อรอง "ทรัมป์" ขอคนไทยสบายใจได้
"นิด้าโพล" สะท้อนเสียงจว.ชายแดนใต้ ชี้ความปลอดภัยยังแย่ ปชช.ส่วนใหญ่มองรัฐ ไม่ค่อยให้ความสำคัญ
สลด "2 สาว" เที่ยวอุทยานฯน้ำตกทรายขาว ปัตตานี น้ำป่าซัดแรง เสียชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น