“จ่าคิงส์” พาเหยื่อร้องกองปราบ ถูกมิจฉาชีพ 2 ผัวเมีย อ้างเป็น สว. สายทหาร ลวงตบทรัพย์กว่าครึ่งล้าน

"จ่าคิงส์" พาเหยื่อร้องกองปราบ ถูกมิจฉาชีพ 2 ผัวเมีย อ้างเป็น สว. สายทหาร ลวงตบทรัพย์กว่าครึ่งล้าน

วันนี้ ( 30 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่บริเวณด้านหน้าแดนเนรมิตเก่า ริมฟุตบาท ถนนพหลโยธิน จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีตสารวัตรทหารอากาศ พร้อมนาย ณัฐปกรณ์ สุดชา หรือ ทนายเจส พานายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ซึ่งรับมอบอำนาจจากผู้ปกครองหลานชาย เข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีถูกมิจฉาชีพสองผัวเมียแอบอ้างว่า เป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หลอกลวงว่า สามารถฝากบุตรหลานเข้ารับราชการกระทรวงการต่างประเทศ ในตำแหน่งนักการทูตได้ โดยเรียกรับเงินเป็นค่าวิ่งเต้นดำเนินการกว่า 600,000 บาท

นายสมชาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 67 ที่ผ่านมา พ่อแม่ผู้ปกครองของหลานชายอายุ 20 ปีเศษ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้พบปะพูดคุยกับสองสามีภรรยาผู้ก่อเหตุ ในงานเลี้ยงงานหนึ่ง โดยมิจฉาชีพรายนี้ ได้เข้ามาทักทายแนะนำตัวว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ที่ได้โควตา ของสายทหาร เป็นหลานชายนายพลทหารที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง พร้อมทั้งโชว์ภาพถ่ายคู่กับบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

ระหว่างการสนทนา สองสามีภรรยา ได้ชักชวนพูดคุย จนรู้ว่ามีบุตรชายที่เรียนจบมหาวิทยาลัย กำลังเตรียมสอบนักการทูตอยู่ จึงอ้างว่าตัวเขามีช่องทางที่จะสามารถฝากหลานชายของตนเข้าเป็นนักการทูตได้ โดยเขาจะฝากผ่านทางท่านทูตไทยประจำประเทศหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันและยังได้ข่มขู่ว่าหากไม่ดำเนินการผ่านตัวเขา หลานชายตนจะไม่มีทางสอบผ่านได้ และจะถูกขึ้นบัญชีดำไม่ให้สอบได้ตลอดชีวิต สร้างความวิตกให้กับพ่อแม่ของหลานเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้น มิจฉาชีพคนดังกล่าวได้หลอกให้พ่อเด็กโอนเงิน 600,000 บาทเข้าบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นฝากลูกเข้ารับราชการ ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดน 1 ล้านบาท แต่ตัวเขาได้สำรองจ่ายไปให้ก่อนแล้ว 400,000 บาท พร้อมทั้งอ้างว่า หากหลานชายตนสอบผ่าน จะต้องชำระเพิ่มอีก 400,000 บาท

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อผลการสอบออกมา ปรากฏว่าหลานชายของตนไม่ได้รับการคัดเลือก พ่อของหลานจึงพยายามทวงเงินคืน แต่กลับถูกมิจฉาชีพรายนี้ พูดจาข่มขู่คุกคามต่างๆ นานา และไม่ยอมคืนเงินให้ ก่อนจะเสนอว่าจะฝากลูกตนให้เป็นผู้ติดตาม สว. แทน และให้หักจากเงินที่ค้างกันไว้ แต่หลานชายปฏิเสธ จึงถูกข่มขู่ว่าจะตรวจสอบประวัติหากพบว่าเคยมีคดีจะขุดคุ้นขึ้นมาประจาน นอกจากนั้นยังมีการข่มขู่ต่างๆนานา จากการตรวจสอบพบว่า ทั้งสองสามีภรรยา ที่ก่อเหตุมีตำแหน่งเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษาของสว. สองท่านที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนี้จริง จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

 

ด้วยเหตุนี้จึงได้มาเข้าขอความช่วยเหลือจากจ่าคิงส์ และทนายเจส เพื่อขอความเป็นธรรมจากตำรวจกองปราบปราม และเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากการข่มขู่คุกคามจากมิจฉาชีพดังกล่าว

 

 

หลังจาก เปิดเผยเรื่องราวให้ผู้สื่อข่าวฟัง แล้ว จ่าคิงส์ และทนายเจส ได้พาอาของผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพข้อหาฉ้อโกงต่อไปเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความ ตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนนัดหมายให้ตัวหลานชายกับผู้ปกครองมาให้ปากคำต่อไป.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สหราชอาณาจักร" ให้คำมั่นพร้อมสนับสนุน แผนการปกครองตนเอง ของ "โมร็อกโก"
น้ำตาซึม หนุ่มน้อยป่วยมะเร็ง มาดู "หมูเด้ง" ครั้งสุดท้ายกับครอบครัว ก่อนเดินทางไกล
กลุ่มทีพีไอ โพลีน คว้าสองรางวัลเกียรติยศจากเวทีระดับโลก 3G Awards ตอกย้ำการเป็นผู้นำขับเคลื่อนความรับผิดชอบทางสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมสีเขียว
"อนุทิน" ลั่นปรับครม.ต้องฟัง "นายกฯ" ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ยันไม่มีสัญญาณอะไร
กรมการท่องเที่ยวไปสุด! ปักหมุดไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวโลก ดันผู้ประกอบการคุณภาพสู่ต้นแบบความสำเร็จ ผ่านมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย “ช้างชูงวงเริงร่า”
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หุ่นยนต์ขอผูกมิตรเจ้าตูบแต่กลับโดนเมินในฉงชิ่ง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) การท่องเที่ยวแนวผจญภัยที่จางเจียเจี้ยเป็นที่นิยมอย่างมาก รับเทศกาลตวนอู่ .
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เมืองโบราณกุ้ยโจวสืบสาน'ประเพณีเรือมังกร' 22 ศตวรรษ
“สหพัฒนพิบูล” หรือ SPC ก้าวสู่ปีที่ 83 ยืนหนึ่งผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ชูจุดยืนขององค์กร “ส่งมอบคุณภาพ อย่างมีคุณธรรม” สร้างวัฒนธรรมองค์กรเข้มแข็ง พร้อมเดินหน้าสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน
ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ เลือกใช้บริการจาก 3 ช่องทางของ MEA

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น