ญาติเหยื่อตึกสตง.ถล่ม ขอความช่วยเหลือ “อัยการคุ้มครองสิทธิฯ” จ.น่าน

ญาติเหยื่อตึกสตง.ถล่ม ขอความช่วยเหลือ "อัยการคุ้มครองสิทธิฯ" จ.น่าน

ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568  สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดน่าน นำโดย นายชาตรี ดาวทอง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดน่าน  นางสาวปานภาวี ยะทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ นายณรัช ปิติทัตนนท์ เจ้าพนักงานคดีชำนาญการ  นายณัฐพัชร์ ใจศิริ นิติกรปฏิบัติการ ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ญาติของผู้เสียชีวิตและผู้สูญหาย ณ บ้านของผู้เสียชีวิตและที่ยังสูญหาย จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่ม ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดน่าน เบื้องต้น จำนวน 3 ราย โดยจุดแรกไปที่บ้าน นายศิลปะ จอมหล้า อายุ 53 ปี (ผู้สูญหาย) ภูมิลำเนาเดิม ต.บ้านบิน อ.ลอง จ.แพร่ บ้านเลขที่ 104 ม.4 ต.ป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนที่จะเดินทางไปที่บ้าน นายอินส่ง วังสาร อายุ 56 ปี (ผู้สูญหาย) บ้านเลขที่ 36 ต.แงง อ.ปัว จ.น่าน และบ้านนางสาวชวัลนุช วุฒิ อายุ 57 ปี (ผู้เสียชีวิต) บ้านเลขที่ 52 ม.3 ต.อวน อ.ปัว จ.น่าน ซึ่งฌาปนกิจศพเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2568

โดย นายชาตรี ดาวทอง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดน่าน ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นจากการลงพื้นที่ดังกล่าวว่า กรณีไม่พบศพหรือไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์หรือตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวตนได้ ก็จะเป็นเรื่องของการที่บุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญหรือไม่ อย่างไร ซึ่งการพิจารณาก็ต้องไปพิจารณาตามข้อกฎหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 61 ซึ่งได้กำหนดเงื่อนไขต่างๆไว้ ต่อไป

 

 

 

 

ส่วนกรณีที่พบศพและตรวจดีเอ็นเอแล้ว ปรากฏว่าตรงกับอัตลักษณ์ หรือดีเอ็นเอของบุคคลที่ตาย ตรงส่วนนี้ทางอัยการคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดน่าน ก็จะเข้าไปดูแลช่วยเหลือในเรื่องของทรัพย์สินที่มีอยู่ซึ่งเป็นมรดก ของผู้เสียชีวิต เช่น บัญชีเงินฝากที่ได้รับเงินค่าจ้างจากการทำงาน รถจักรยานยนต์ที่ดินหรือแม้กระทั่งบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะที่จะต้องมีการตั้งผู้ปกครอง และในส่วนของการรับสิทธิต่างๆซึ่งหากตรวจสอบจากเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักแล้วบุคคลดังกล่าวมีสิทธิ์ได้รับสิทธิ์จากหน่วยงานไหนบ้างก็คงต้องไป ดำเนินการตามขั้นตอนนั้นนั้นต่อไป ทั้งนี้หากติดขัดหรือขัดข้องในส่วนใดทางสำนักงานอัยการคุ้มครอง สิทธิจังหวัดน่านก็จะเป็นผู้ประสานงานให้ต่อไป

ซึ่งเบื้องต้น ทางสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดน่าน ได้มาให้คำแนะนำและช่วยเหลือในข้อกฎหมายและข้อติดขัดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมเป็นกำลังใจและแสดงความเสียใจกับญาติของผู้สูญเสียทุกท่าน

 

ล่าสุดวันนี้  6 พ.ค. 2568 ทายาทผู้มีส่วนได้เสียของนางสาวรุ่งรัตนาวดี อินทอง และ นายอินส่ง วังสาร ผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว ได้เข้าขอรับความช่วยเหลือ จาก นายชาตรี ดาวทอง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดน่าน เพื่อดำเนินการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเพื่อจัดการทรัพย์สินของผู้ตาย ณ สำนักงานอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดน่าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พายุฝนพัดถล่มชายแดน ต้นไม้ใหญ่ล้มระเนระนาด ทับบ้าน กุฏิพระ หลังคาปลิวหลายสิบหลัง จนท. เร่งช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย
ชาวกำแพงเพชร พบเทวรูปเจ้าแม่กวนอิมโบราณ อายุนับ 100 ปี
ตำรวจ สภ.กันทรวิชัย ปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้ายักย้ายถ่ายเทเงินไปยังประเทศกัมพูชา ได้เงินคืนนับล้านบาท จากกว่า 4 ล้านบาท
จนท.ช่วยชีวิตสุนัขพลัดตกท่อระบายน้ำ สภาพหิวโซไร้เรี่ยวแรง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา ประชุมคณะทำงานประชาสัมพันธ์ เตรียมความพร้อมจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ศ. 2568
รพ.ตำรวจ ต้อนรับคณะหลักสูตร “หลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย” (นธป.) รุ่นที่ 13

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​