ครอบครัวแจ้งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X วานนี้ (11 เมษายน) ว่า โอเรนทัล เจมส์ ซิมป์สัน เสียชีวิตแล้วจากโรคมะเร็ง เมื่อวันพุธที่ 10 เมษายน โดยมีลูกหลานอยู่เคียงข้าง ครอบครัวขอให้ทุกฝ่ายเคารพความเป็นส่วนในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน
มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ซิมป์สันป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เขาโพสต์คลิปหลังสุดบน X เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ยืนยันว่าสุขภาพยังดี
ซิมป์สันเติบโตในครอบครัวยากจนและสุขภาพไม่ดีนัก แต่ฝ่าฟันอุปสรรคและพัฒนาตัวเองจนเป็นนักกีฬาที่เก่งกาจที่สุดแห่งยุค เริ่มฉายแววรุ่งตั้งแต่เป็นนักอเมริกันฟุตบอลวิทยาลัย จนเข้าสู่ NFL เป็นตัววิ่งในตำนานของ บัฟฟาโล บิลส์ คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าในปี 2516 หลังอำลานักฟุตบอลอาชีพ ก็ประสบความสำเร็จ เมื่อหันมารับงานโฆษณาและแสดงภาพยนตร์ แต่ทุกอย่างกลับตาละปัตร เมื่อเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม นิโคล บราวน์ ซิมป์สัน อดีตภรรยา และรอน โกลด์แมน เพื่อนชายของเธอ ในปี 2537 ทั้งสองถูกแทงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ที่หน้าบ้านของบราวน์ ในลอสแองเจลิส
สิ่งที่ทำให้ซิมป์สันเป็นที่จดจำก็คือ สถานีโทรทัศน์ในสหรัฐ พากันถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่อดีตนักฟุตบอลระดับตำนาน หลบหนีการไล่ล่าของตำรวจไปตามทางหลวงในลอสแองเจลิสแบบไม่ได้ใช้ความเร็วมากนัก ในวันที่เขามีกำหนดเข้ามอบตัว ภาพที่ปรากฏคือซิมป์สันขับรถ ฟอร์ด บรองโค สีขาว โดยมีรถตำรวจจำนวนมากขับตามหลัง ก่อนไปหยุดที่แมนชั่นของซิมป์สัน
อัยการกล่าวหาซิมป์สันฆาตกรรมอดีตภรรยาเพราะความหึงหวงและแค้น หลักฐานรวมถึงรอยเลือด เส้นผม และผลตรวจสอบต่างๆ ที่ล้วนมัดตัวซิมป์สันเป็นฆาตกร แต่ทนายจำเลย สู้คดีด้วยการยกเรื่องที่ตำรวจผิวขาวเหยียดผิวมาเป็นข้อโต้แย้ง
และคณะลูกขุน 12 คนที่มี 8 คนเป็นคนผิวสี ก็ตัดสินให้ซิมป์สัน พ้นผิดในเดือนตุลาคม 2538 แบบค้านสายตาชาวอเมริกันจำนวนมาก ที่เกาะติดการพิจารณาคดีตลอด 9 เดือน และสื่อพากันขนานนามให้เป็น “คดีแห่งศตวรรษ” หนึ่งในเหตุการณ์เป็นที่จดจำมากที่สุด คือการที่อัยการขอให้ซิมป์สัน สวมถุงมือหนังเปื้อนเลือดที่พบในที่เกิดเหตุ ซิมป์สันทำท่าพยายามใส่ด้วยความยากลำบาก ให้เห็นว่าคับเกินไป หนึ่งในทนายของเขา บอกคณะลูกขุน ว่า ถ้าใส่ไม่พอดี พวกท่านต้องให้พ้นผิด
มุมมองว่า โอ เจ ซิมป์สัน เป็นฆาตกรหรือผู้บริสุทธิ์ แตกแยกกันอย่างชัดเจนตามสีผิว และกระบวนการยุติธรรมในสหรัฐ ก็ถูกตั้งคำถามอย่างมากในเวลานั้น
ซิมป์สันพ้นผิดทางอาญา แต่ถูกตัดสินมีความผิดในคดีแพ่งในปี 2540 ต้องจ่ายค่าชดเชย 33.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ครอบครัวของเหยื่อ ต่อมา ต้องคดีปล้นทรัพย์ จากการพาพวกปล้นชิงของที่ระลึกด้านกีฬาในโรงแรมแห่งหนึ่งในปี 2550 ถูกตัดสินจำคุก 33 ปี แต่ติดคุกได้ราว 9 ปี ก็ได้รับการพิจารณาให้ปล่อยตัวก่อนกำหนดในปี 2560
