16 ปี “ภูมิใจไทย” แข็งแรงทางการเมือง จับตา New Gen เดินหน้าสร้างแข็งแกร่ง อุดมคติ “พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่”

และถือเป็นภาพย้ำที่มีความหมาย ต่อเนื่องจากคำพูดของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศจุดยืนของพรรค หลายต่อหลายครั้ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ว่า “พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มาตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้ง และจะยึดมั่นอุดมการณ์นี้ไม่มีเปลี่ยนแปลง”

 

 

 

 

 

 

 

ขณะที่ชื่อ “พรรคภูมิใจไทย” หลายคนอาจไม่ทราบว่า ถูกกำหนดให้สื่อความหมายถึง “การดําเนินงานทางการเมืองที่ยึดมั่นในวิถีความเป็นไทย” ส่วนเครื่องหมายพรรค ที่เป็นภาพประเทศไทยบนรูปหัวใจ เป็นการสื่อถึง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และคนไทยทั้งชาติอันมีหัวใจดวงเดียวกัน อยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินเดียวกัน ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

 

 

 

 

 

 

ไม่เท่านั้นถ้าได้เห็นประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ที่ปรากฎในราชกิจจานุเบกษา หมวด 2 ว่าด้วย คําประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค ประกอบด้วย

(1) พรรคจะเชิดชูสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยึดมั่นและธํารงไว้ ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

(2) พรรคจะน้อมนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชา มาเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

 

ยิ่งทำให้ภาพโครงสร้างพรรค ตั้งแต่ คณะผู้บริหารชุดใหม่ ที่ประกอบด้วย สมาชิกพรรค และ สส. New Gen จนมาถึงแนวนโยบาย ในการบริหารประเทศ ผ่านกระทรวงสำคัญ ๆ มีความโดดเด่นยิ่ง ในฐานะพรรคการเมืองที่มีความเป็น “อนุรักษ์นิยมใหม่” เพราะไม่เพียงแค่ นักการเมือ
ผลิตคำพูด หรือ วาทกรรม แต่เป็นการพูดแล้วทำ ตามหลักการของพรรค

 

 

 

โดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จากพรรคภูมิใจไทย ได้ทำข้อตกลงร่วมกันใน “การสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ เป็นคนที่มีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นสถาบันสำคัญของชาติ”

 

 

จนปัจจุบันข้อตกลงดังกล่าว กลายเป็นการปลุกสำนึกคนรุ่นใหม่ ผ่านตำราเรียน ประวัติศาสตร์ชาติไทย และ การจัดการเรียน การสอน วิชาหน้าที่พลเมือง และศีลธรรม ที่ได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวาง ไม่นับรวมแนวโยบายเกี่ยวข้องอื่น ๆ ของพรรคภูมิใจไทย ที่จะเกิดขึ้นนับต่อจากนี้ ทำให้สร้างความมั่นใจได้ว่า ความสำคัญ และ แนวคิดปกป้องสถาบันหลักของชาติ จะได้รับการปลูกฝังอย่างถูกต้องต่อไปจากรุ่นต่อรุ่น