No data was found

หัวใจสลาย “แม่เหยื่อระเบิดไต้หวัน” ร่ำไห้วอน “นายกฯ” ช่วยนำศพลูกชายกลับบ้านเกิด

กดติดตาม TOP NEWS

หัวใจสลาย "แม่เหยื่อระเบิดไต้หวัน" ร่ำไห้วอน "นายกฯ" ช่วยนำศพลูกชายกลับบ้านเกิด

จากกรณีเกิดเหตุระเบิด ที่โรงงาน ‘เจวี๋ย เฟิง อะลูมิเนียม จำกัด’ (Juei Feng Aluminium) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแท่งอะลูมิเนียม ในเขตหูเน่ย นครเกาสง ทางตอนใต้ของเกาะไต้หวัน เมื่อช่วงเวลา 08.23 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีแรงงานชาวไทยเสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน โดยมีพนักงานโรงงานถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่น 8 ราย หนึ่งในนั้นถูกประกาศว่าเสียชีวิตเมื่อไปถึงโรงพยาบาล ส่วนอีกรายเป็นชายอายุราว 50 ปี ถูกพบในสภาพไม่มีสัญญาณชีพ และเสียชีวิตหลังความพยายามคืนชีพล้มเหลว โดยแรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย คือ นายศักดา ยุรยาตร (ยุ-ระ-ยาด) ชาวศรีสะเกษ และชายไทยอีกคนหนึ่งภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ (26 มี.ค.67) เวลา 08.45 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านโพธิ์ลังกา หมู่ 11 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนางอำมะรา ยุรยาตร (ยุ-ระ-ยาด) อายุ 62 ปี แม่ของนายศักดา ยุรยาตร อายุ 37 ปี แรงงานไทยที่เสียชีวิต ซึ่งนางอำมะรา กำลังนั่งปรึกษาหารือกับลูกสาว 2 คน คือ นางวันเพ็ญ แก้วพวงอายุ 43 ปี ลูกสาวคนโต และ นางหัด ยุรยาตร อายุ 40 ปี ลูกสาวคนที่ 2 โดยนายศักดา ที่เสียชีวิตเป็นลูกชายคนเล็ก และเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ขณะที่บริเวณด้านหน้าบ้านได้มีการกางเต๊นท์จัดเก้าอี้เพื่อเตรียมจัดพิธีศพรวมทั้งต้อนรับแขกญาติพี่น้องที่จะเดินทางมาร่วมพิธีศพของนายศักดา บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก

 

นางอำมะรา กล่าวว่า ตนยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ แม้ว่าจะได้เงินมากเท่าไหร่ตนก็ไม่อยากได้ ตนอยากได้ชีวิตของลูกชายกลับคืนมาเพื่อมาดูแลแม่และพ่อ โดยเฉพาะพ่อที่พิการนอนติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนแม่ก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน นายศักดา เป็นลูกชายคนเล็กและเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน และเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว โดยลูกชายไปทำงานที่ไต้หวันแบบถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อเดือนตุลาคม 2565 มีสัญญาการทำงาน 3 ปี เงินเดือนประมาณ 4 หมื่นบาท ก่อนไปได้กู้เงิน 1 แสนบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเพิ่งใช้หนี้หมดไปเมื่อช่วงเดือนกันยายนปี 2556 ที่ผ่านมา

 

 

นางอำมะรา ร่ำไห้กล่าวทั้งน้ำตาว่า “ขออยากฝากถึง นายกเศรษฐา ทวีสิน ขอให้ช่วยเหลือนำศพกลับบ้านเกิดให้ใได้ ตนคิดถึงลูกชายคนนี้มากเพราะอาศัยลูกชายคนนี้ในการดูแลหลาเลี้ยงครอบครับ พอไม่มีลูกชายแล้ว ก็ไม่รู้จะไปพึ่งพิงใครได้ จึงขอความเมตตาจากท่านนายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยเหลือด้วย หากไม่นำเอาศพกลับมาให้ก็ขอให้นำอัฐิกลับมาให้พ่อแม่ลูกเมียญาติพี่น้องได้ทำบุญด้วยโดยด่วนด้วย”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ย้ำปมดราม่าข้าว 10 ปี จบแล้ว ขั้นตอนซื้อขายให้เป็นตามกลไกเชิงพาณิชย์
ซีพีเอฟ ร่วม เขตหนองจอก กทม. โครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวและความหลากหลายทางชีวภาพ
"รมว.วธ." ปลื้มรับ "โกลเด้นบอย-สตรีพนมมือ" เปิดเข้าชม 22 พ.ค.นี้
“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ถอนฟ้อง “บุ้ง ทะลุวัง” คดีหมิ่นประมาท
พล.ร.11 นำกำลังพลร่วมประกอบพิธีเวียนเทียนวันวิสาขบูชา
ทรภ. 1 จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ”เนื่องในวันอาภากร” ประจำปี 2567
"กลุ่มสมาพันธ์กัญชา" ยื่นหนังสือหนุน "ภูมิใจไทย" ผลักดันกม.กัญชา คัดค้านแนวคิดรัฐดึงกลับเป็นยาเสพติด
รวบตัวรอบ 2 "แอนนา" กูรูนางงาม ลวงขายทองคำทางโซเชียล เหยื่อหลงเชื่อเพียบ
"ธีรยุทธ" ฟ้องศาลปกครอง สั่งเพิกถอนกติกาเลือกสว. ส่อขัดรธน. หวั่นเปิดช่องเอื้อพวกทุนหนา
"สนามบินสุวรรณภูมิ" สรุปเหตุเครื่องบิน "สิงคโปร์แอร์ไลน์" ขอลงจอดฉุกเฉิน ยืนยันยอดเจ็บ เสียชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น