วานนี้ (29 พฤศจิกายน) ศาลสูงในกรุงอิสลาม มีคำพิพากษาให้ นายนาวาฬ ชารีฟ พ้นผิดในข้อหาคอรัปชั่น กรณีครอบครัวซื้ออพาร์ตเมนต์หรูในกรุงลอนดอน ที่ทำให้อดีตผู้นำปากีสถาน ต้องโทษจำคุก 10 ปี เมื่อปี 2561 การพ้นผิดในคดีนี้ ถือเป็นการขจัดขวากหนามหนึ่งด่านสำคัญ สำหรับการกลับมาลงเลือกตั้งอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ศาลยืนยันว่า ชารีฟพ้นผิดแล้วหนึ่งคดี แต่ยังรอผลอุทธรณ์คำพิพาษาคดีที่สอง เรื่องที่ครอบครัวของเขาไปลงทุนในบริษัทเหล็กกล้า ในปี 2542 แต่ไม่สำแดงในบัญชีทรัพย์สิน ความผิดนี้ทำให้เขาต้องโทษจำคุก 7 ปี ในปี 2560 ปีเดียวกับที่เขาก้าวลงจากตำแหน่ง
หลังต้องโทษสองคดี ชารีฟ วัย 73 ปี ถูกตัดสิทธิลงเล่นการเมืองตลอดชีวิต และลี้ภัยตัวเองไปอยู่ลอนดอน 4 ปี เพื่อเลี่ยงโทษจำคุก เพิ่งเดินทางกลับปากีสถานเมื่อเดือนตุลาคม เพื่ออุทธรณ์คำพิพากษา ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่กำหนดจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ชารีฟเพิ่งยื่นอุทธรณ์คดีแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และศาลก็มีคำตัดสินเมื่อวันพุธที่ 29 พ.ย. เจ้าตัวยืนยันว่าข้อหาคอรัปชั่นทั้งหลาย เป็นเรื่องการเมือง
ชารีฟ เป็นนายกรัฐมนตรีปากีสถาน 3 สมัยแต่ไม่เคยอยู่ครบเทอม ความสัมพันธ์กับกองทัพ สถาบันทรงอำนาจที่ว่ากันว่าเป็นผู้กุมบังเหียนประเทศตัวจริง ก็เป็นไปแบบขึ้น ๆ ลง ๆ ฮาซัน อัสคารี นักวิเคราะห์การเมือง กล่าวว่า ตอนนี้ ทุกอย่างขยับเข้าทางนาวาซ ชารีฟ ดูเหมือนว่า สถาบันและผู้ทรงอิทธิพลกำลังบริหารจัดการเกมการเมืองกันอยู่
ดวงการเมืองของชารีฟเปลี่ยน เมื่ออดีตซูเปอร์สตาร์นักคริคเก็ต อิมรอน ข่าน ที่หันมาเล่นการเมือง ขัดแย้งกับกองทัพ ข่านถูกตัดสินจำคุก ฐานพัวพันหลายคดีที่เจ้าตัวอ้างว่า ออกแบบมาเพื่อสกัดเขาออกจากศึกเลือกตั้งปีหน้า คนที่ขึ้นมามีอำนาจแทนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น เชห์บาซ น้องชายของนาวาซ ชารีฟ จากนั้นมา รัฐบาลใหม่ได้แก้ไขกฎหมายจำกัดการตัดสิทธิ์ผู้สมัครลงเลือกตั้ง เหลือเพียง 5 ปี เพื่อปูทางให้อดีตนายกฯชารีฟหวนคืนเวทีการเมือง
หากขจัดอุปสรรคเรื่องคดีความทั้งหมด ชารีฟถูกคาดหมายว่าจะลงเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 ก.พ. และคู่แข่งสำคัญยังเป็นอิมรอน ข่าน ที่แม้ว่ากำลังรับโทษ 3 ปีข้อหาทุจริตอยู่ในคุก แต่ยังเป็นแกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญ และพรรคของเขาก็มีฐานมวลชนสนับสนุนไม่น้อย ล่าสุด ข่านได้ตั้งทนายคนหนึ่งในทีม เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพราะการต้องโทษคดีทุจริต ทำให้เขาไม่สามารถเป็นผู้นำพรรคแบบออกหน้าได้