สาวใหญ่ตาสว่างหลังศูนย์ดำรงธรรมชี้แจงค่าธรรมเนียมต่อสัญญาเช่าอาคารธนารักษ์

สาวร้องถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่อสัญญาเช่าอาคารธนารักษ์ 50,690 บาท-ตาสว่างหลังศูนย์ดำรงธรรมชี้แจงไปไปตามระเบียบกฎหมาย -ส่วนเงินประกันก่อสร้างอาคาร 52,752 บาท ที่อ้างว่า 17 ปีผ่านธนารักษ์ยังไม่จ่ายที่แท้พ่อรับเช็คไปแล้วตั้งแต่ปี 2550-อ้างเข้าสู่วัยชราหลง ๆ ลืม ๆ

จากกรณีผู้เช่าที่ทำสัญญาเช่าอาคารราชพัสดุบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 14 ครอบครัว ออกมารวมตัวกันบริเวณหน้าอาคารเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเรียกร้องขอความเป็นธรรมหลังจากส่งหนังสือร้องเนียนขอความเป็นธรรมถึงนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในกรณีการต่อสัญญาเช่าอาคารราชพัสดุดังกล่าวที่ถูกเรียกค่าธรรมเนียมการต่อสัญญาเช่า 5 ปี เป็นเงิน 50,690 บาท ทั้ง ๆ ที่ไม่มีการระบุไว้ในเอกสารสัญญาก่อสร้างและสัญญาเช่าเดิมมาก่อน โดยมีนางสาวชรินทิพย์ ฐานะกาญจน์ อายุ 47 ปี บุตรสาวของนายภิญโญ ฐานะกาญจน์ อายุ 74 ปี หนึ่งในผู้เช่าอาคารราชพัสดุเป็นแกนนำ โดยระบุว่าเงินหลักประกันความเสียหายระหว่างการก่อสร้างอาคาร จำนวน 52,752 บาท ที่นายภิญโญ ฐานะกาญจน์ อายุ 74 ปี(อายุในขณะนั้น 57 ปี) จ่ายให้กับธนารักษ์ในช่วงทำสัญญาก่อสร้างตามใบเสร็จรับเงินเลขที่ 34 เล่มที่ 21026 ลงวันที่ 1 ธ.ค. 2547 หลักประกันดังกล่าวจะคืนให้เมื่อครบกำหนด 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ผู้รับสัญญา ก็ยังไม่ได้รับคืน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

(26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่นางสาวชรินทิพย์ ฐานะกาญจน์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมราช ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฏว่าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชได้มีหนังสือแจ้งผลการ ตามหนังสื่อที่ นศ 0017.1/15114ถึง นางสาวชรินทร์ทิพย์ ฐานะกาญจน์ ความว่า ตามที่ท่านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนร้องทุกข์ ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 แจ้งว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีกำหนดระยะเวลา 5 ปี โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการชำระค่าเช่าของอาคาร ชำระค่าธรรมเนียมและต่อสัญญาเช่า 5 ปี เป็นเงินจำนวน 50,640 บาท แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจ ปัจจุบัน ทำให้ท่านได้รับความเดือดร้อน และไม่มีความสามารถในการจ่ายค่าสัญญาเช่าได้ ท่านอ้างว่า เป็นการ ซ้ำช้อนกับค่าเช่า และอีกประการหนึ่ง หลักประกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างตามข้อ ๘ของสัญญา ท่านยังไม่ได้ค่าหลักประกันความเสียหาย จำนวน 56,752 บาท ซึ่งกระทรวงการคลังโดยสำนักงานธนารักษณ์พื้นที่นครศรีธรรมราช จะต้องจ่ายคืนภายใน 1 ปี นับตั้งแต่ได้มอบสิ่งปลูกสร้างให้ธนารักษ์พื้นที่นั้น

จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า ค่าธรรมเนียมการต่ออายุสัญญาเช่าอาคารราชพัสดุ ๕ ปี เป็นเงิน 500,690 บาท ที่ผู้ร้องอ้างว่า เป็นการช้ำช้อนกับค่าชำระรายเดือน ขอเรียนว่าค่าเช่าอาคารที่ผู้เช่าต้องชำระให้แก่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครศรีธรรมราช เป็นรายเดือนตามเงื่อนไขของสัญญาเช่า ข้อ 3 มิใช่ค่าธรรมเนียมการต่อสัญญาเช่าที่ผู้เช่าต้องชำระ เมื่อสำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครศรีธรรมราช อนุญาตให้ต่ออายุสัญญาเช่า จึงไม่ใช่เป็นการเรียกเก็บเงินซ้ำช้อนแต่อย่างใด ในส่วนค่าธรรมเนียมการต่ออายุสัญญาเช่าอาคาร ราชพัสดุ นายภิญโญ ฐานะกาญจน์ เป็นผู้ก่อสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง ทางราชการจึงให้สิทธิเช่าอาคารราชพัสดุครั้งแรกมีกำหนด 13 ปี 6 เดือน 24 วัน นับตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 และเมื่อสัญญาเช่านานปีครั้งแรกสิ้นสุด ทางราชการจะพิจารณาต่ออายุสัญญาเช่าให้มีกำหนด 5 ปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมธนารักษ์กำหนดแล้ว กรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVD – 19) ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้เช่าที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์จึงได้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้เช่าผ่อนชำระค่าธรรมเนียม การต่อสัญญาเช่าได้ โดยให้ผู้เช่ายื่นคำร้องขอผ่อนชำระได้เป็นรายเดือน และให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี โดยยกเว้นเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน “และกรณีหลักประกันความเสียหายตามสัญญาก่อสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง จำนวน 52,752 บาท ที่ผู้ร้องอ้างว่ายังไม่ได้รับคืน จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน พบว่านายภิญโญ ฐานะกาญจน์ บิดาของผู้ร้อง ได้ยื่นคำขอถอนหลักประกันสัญญาก่อสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์กระทรวงการคลัง และสำนักงานธนารักษ์พื้นนครศรีธรรมราชได้จ่ายคืนเงินหลักประดังกล่าว จำนวน 52,752 บาท โดยสั่งจ่ายเป็นเช็คธนาคารกรุงไทย สาขานครศรีธรรมราช เลขที่ 02890 25 กันยายน 2550 0 ซึ่งบิดาผู้ร้องได้ลงลายมือชื่อรับเช็คฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2550 จึงเรียนมาเพื่อทราบ”

โดยนางสาวชรินทิพย์ ฐานะกาญจน์ กล่าวเปิดเผยว่าหลังได้รับหนังสื่อชี้แจงจากศูนย์ดำรงธรรม จึงหวัดนครศรีธรรมราชว่า หลังจากได้รับหนังสือชี้แจง ตนพอจะเข้าใจระเบียบขั้นตอนมากขึ้น โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมการต่ออายุสัญญาเช่า 5 ปี เป็นเงิน 50,690 บาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามข้อ 2-5 รวมเป็นเงิน51,655 บาท ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทางธนารักษ์ให้สามารถผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนได้แต่ต้องจ่ายให้ครบภายใน 1 ปี ตนจะทำเรื่องขอผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนในระยะเวลา 1 ปีตามระเบียบต่อไป  ส่วนเรื่องและกรณีหลักประกันความเสียหายตามสัญญาก่อสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง จำนวน 52,752 บาท ที่ธนารักษ์จะต้องใช้คืนภายใน 1 ปี เมื่อก่อนนายภิญโญ ฐานะกาญจน์ อ้างว่ายังไม่ได้รับคืนนั้น หลังได้รับหนังสือชี้แจงยืนยันจากศูนย์ดำธงธรรม ตนได้สอบถามนายภิญโญ ฐานะกาญจน์ บิดาก็ยังยืนยันว่ายังไม่ได้รับคืน ตนจึงสอบถามคนอื่น ๆ ที่ร่วมก่อสร้างและเช่าที่นารักษ์ในรุ่นเดียวกันหลายคนบอกว่าได้รับแล้วแต่หลายคนยืนยันว่ายังไม่ได้รับ ตนจึงพยายามเค้นสอบถามบิดาให้ลองนึกทบทวนดี ๆ ในที่สุดบิดาและผู้เช่ารายอื่น ๆ ก็นึกออกว่ารับเงินแล้ว แต่เนื่องจากรับเป็นเช็คไม่ได้รับเป็นเงินสด ประกอบกับเวลาผ่านมาถึง 17 ปี ในปัจจุบันแต่ละคนอยู่ในวัยชราจึงมีการหลง ๆ ลืม อย่างไรก็ตามตนในฐานะที่เป็นผู้ออกมาเรียกร้องในเรื่องนี้จนได้รับการชขี้แจงมีคำตอบที่ชัดเจนต้องขอขอบพระคุณทุกที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนของธนารักษ์ต่อไป.

ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เจ้อเจียงเปิดตัว 'แพลตฟอร์มท่องเที่ยว' พลัง AI
กกล.บูรพา รวบ 2 สาวไทย อ้างถูกหลอกทำงานปอยเปต เบื้องหลังรับจ้างข้ามแดนเปิด "บัญชีม้า-สแกนหน้า" ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
“50 ปีไม่มีแก่” คำนี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับคุณอาร์ต วศิน วรรณพฤกษ์ ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ศน. ต่อยอดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ตักบาตรทางน้ำริมคลองข้าวตอก จังหวัดพิจิตร” ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนเข้าวัด น้อมนำหลักธรรมดำเนินชีวิต
รมว.คลัง โต้ลือ "สหรัฐ" ตัดสินใจเก็บภาษีไทย 36% แจงเร่งยื่นข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค. นี้
"ศิริโชค" อดีตสส.สงขลา โพสต์อัปเดต จับมือลอบเผารถยนต์ได้แล้ว เร่งขยายผลผู้จ้างวาน ไม่หวั่นอิทธิพลมืด
เหยื่อร้อง Top News ถูกตัวแทนนายหน้าประกัน โกงค่าสินไหมอุบัติเหตุกว่าแสน เชื่อทำเป็นขบวนการ
"จีน-เมียนมา-ไทย" เห็นพ้อง ร่วมมือยกระดับกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ เมืองเมียวดี
“นันทิวัฒน์” ตอกย้ำเขมร ปราสาท “ตาเมือนธม” เป็นของไทยตั้งแต่อดีต ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อกัมพูชา
เจอแล้ว! “รั้วกั้น-หมุดหลักเขต” นับ 100 หมุด ชี้ชัด 3 ปราสาทอยู่ในแผ่นดินไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น