ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งนายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนใหม่ และให้ นายอนุชา บูรพชัยศรี ไปดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ภายหลังการประชุม ครม. นายอนุชา กล่าวอำลาจากตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ตนขอขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ได้ไว้วางใจให้ตนได้ทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้นายกฯ ได้มอบโอกาสให้ทำงานทาง ด้านบริหารเพิ่มเติม และเกี่ยวข้องกับนโยบายมากขึ้นในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ต้องขอขอบคุณนายกฯ นอกเหนือจากนี้ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน ที่ให้ความร่วมมือนำเสนอข่าวไปสู่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์
“ขอขอบคุณเลขาธิการนายกฯ ที่ดูแลกำกับการทำงานสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานทุกองค์กรที่ให้ข้อมูลข่าวสารเมื่อร้องขอข้อมูลทำให้งานของสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนได้ทันเหตุการณ์ และขอบคุณรองโฆษกฯ ทั้ง 2 คนที่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ฟังเสียงและคำเสนอแนะของประชาชน เพื่อนำมาประกอบการทำงานของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชนตลอด ในช่วงที่ผมเข้ามาทำหน้าที่ 1 ปีในฐานะโฆษกรัฐบาล ท่านได้ให้คำแนะนำมาตลอดว่าไม่ใช่เป็นการสื่อสารในทางเดียว แต่จะต้องสื่อสารทั้ง 2 ฝ่าย คือไม่ใช่พูดอย่างเดียวจะต้องฟังด้วย เพื่อนำมาปฏิบัติและปรับปรุงให้รัฐบาลสามารถทำงานให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายอนุชา กล่าว
จากนั้นนายอนุชา กล่าวแสดงความยินดี และแนะนำนายธนกร ที่มาเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนใหม่ ว่า เป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ จากนี้จะได้เห็นบทบาทโฆษกรัฐบาลแน่นอน ซึ่งแต่ละคนอาจจะมีคาแรคเตอร์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จากนี้ไปคงจะเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการสื่อสารที่เป็นเนื้อหาสาระที่รัฐบาลจะสื่อสารกับประชาชนโดยผ่านโฆษกรัฐบาลคนใหม่ ขอแสดงความยินดีอีกครั้ง
ด้านนายธนกร กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณนายกฯ ที่ได้ให้ความไว้วางใจและให้โอกาสให้เข้าไปทำหน้าที่ในตำแหน่งโฆษกรัฐบาล โดยตนจะตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ ในการที่จะสื่อสารให้กับประชาชนให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาลโดยเฉพาะนโยบายต่าง ๆ นอกจากนั้น จะต้องสื่อสาร 2 ทางให้ประชาชนเข้าใจ 1.ต้องรับฟังปัญหาของประชาชนที่สะท้อนมายังรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไข 2.จะต้องทำงานในเชิงรุกในเรื่องของระบบดิจิทัลต่าง ๆ ที่จะต้องสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เพราะวันนี้สถานการณ์ โควิด-19 เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ รัฐบาลพยามทำทุกวิถีทางเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย ฉะนั้นการสื่อสารกับประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาต้องขอชื่นชมนายอนุชาและทีมงานที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี และยังคงต้องประสานงานต่อ อย่างไรก็ตามขอขอบคุณนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และยินดีกับนายอนุชา ที่ผ่านมาตนได้ทำงานร่วมกันมาตลอด ด้วยการให้เกียรติกัน