“สุพัฒนพงษ์” หารือคลังขยายมาตรการลดภาษีดีเซล

"สุพัฒนพงษ์" เผยเตรียมหารือกระทรวงการคลัง ดูแลสถานการณ์ราคาดีเซล ชี้หากจำเป็นต้องต่ออายุมาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตดีเซล ต้องขอให้กกต.พิจารณา ด้านปลัดพลังงาน ยันจะพยายามดูแลราคาน้ำมันดีเซล ให้อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นปี

วันที่ 30 พ.ค.66 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลัง ร่วมพิธีลงนามสัญญาแบ่งปันผลผลิตกับบริษัทผู้ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย ครั้งที่ 24 ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต จำนวน 3 แปลง รวมขนาดพื้นที่กว่า 30,000 ตารางกิโลเมตร เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศในระยะยาว

 

 

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงมาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.66 ว่า ขณะนี้ยังไม่ต้องรีบดำเนินการเพราะยังเหลือระยะเวลาในการดำเนินการ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในเดือน ก.ค. ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือกันอยู่ทั้งกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง โดยมองว่า หากจำเป็นที่จะต้องต่อมาตรการออกไป ก็จะต้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต) .พิจารณา

ทั้งนี้ ในฐานะรัฐมนตรีรักษาการ ได้เตรียมหารือกระทรวงการคลัง หากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ทันเวลา เนื่องจากกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแลในเรื่องนี้ โดยต้องหารือกันถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลว่าเป็นอย่างไร และหากจำเป็นจะต้องขอกกต. ก็ต้องดำเนินการ ส่วนจะยืนราคาได้หรือไม่ ทุกหน่วยงานจะต้องหารือกัน โดยกระทรวงพลังงานก็จะดำเนินการในทุกทางเพื่อช่วยเหลือในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าการตลาด ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือของผู้ประกอบการต่อไป

 

 

ทั้งนี้ ในฐานะประธาน คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ในช่วงที่ยุบสภาได้ให้แนวทางว่า ให้ดูแลให้อยู่ในกรอบราคาน้ำมันดีเซล(ที่ประมาณ 35 บาท) โดยจำเป็นที่จะต้องพิจารณาในหลายมิติ ทั้งเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ ต้นทุนค่าใช้จ่ายอะไรต่างๆ และดูเรื่องของความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งกรอบราคาน้ำมันดีเซลขณะนั้นเป็นการให้กรอบไว้อย่างหลวมๆ ที่ 35 บาทต่อลิตร ซึ่งขณะนี้กรอบดังกล่าวมีความยืดหยุ่นพอสมควร โดยทางด้านของปลัดกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีการลดค่าไฟฟ้า ก็จะเป็นในเรื่องของกกพ.ดำเนินการ ส่วนจะลดในสัดส่วนเท่าไหร่นั้น จะต้องกลับไปดูตัวเลขอีกครั้ง แต่ในส่วนของนโยบายพรรคการเมืองที่ใช้หาเสียง จะลดสัดส่วนเท่าไหร่ ต้องคิดวิธีการ เพราะตัวเลขมีความชัดเจนอยู่แล้วทั้งในส่วนของต้นทุนเท่าไหร่ ทำอย่างไร สัดส่วน 70 สตางค์จะมาจากที่ไหนอย่างไรก็ต้องคิดกันเอง ส่วนสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. ) ก็พร้อมจะคำนวณให้ดู แสดงตัวเลขให้ดู เพราะอำนาจในการกำกับดูแลพลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้าเป็นเรื่องของกกพ.

 

 

นายสุพัฒนพงษ์ ระบุด้วยว่า ในส่วนของรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการในเรื่องพลังงานนั้น มองว่า รัฐบาลใหม่มีความเข้าใจในเรื่องของพลังงานอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาก็จะเข้ามาทำงาน โดยนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง ก็จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าพพรรคได้จะเป็นรัฐบาล ซึ่งได้มีการประกาศไว้ชัดเจนโดยตนมองว่าอะไรที่ปรับได้ก็ดี และวันนี้รัฐบาลของเราก็ทำดีที่สุด พร้อมส่งมอบในสิ่งที่ไม่เป็นภาระรัฐบาลใหม่อย่างแน่นอน และขณะนี้ทิศทางของราคาไฟฟ้าได้ผ่านช่วงพีคสูงสุดไปแล้วในช่วงของไตรมาสแรกของปีนี้ และขณะนี้ราคาไฟฟ้าก็ได้ปรับตัวลดลงมาโดยเฉพาะในส่วนของภาคอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงอีกในงวดถัดไป แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับกกพ. ว่าจะมีการพิจารณาและปรับราคาค่าไฟอย่างไร

 

 

 

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่าจะพยายามดูแลราคาน้ำมันดีเซล ให้อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นปี แม้ว่ามาตรการลดภาษีสรรพสามิตจะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.66 และไม่มีการต่ออายุออกไป เพราะหากดูจากสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดลบน้อยลง และยังมีเงินกู้ เสริมสภาพคล่องที่ยังมีวงเงินเหลืออีก 70,000 ล้านบาท ก็ยังสามารถดูแลราคาน้ำมันดีเซลได้

แต่ยอมรับว่า ต้องอยู่ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันในตลาดโลกเฉลี่ยอยู่ในระดับปัจจุบัน 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงก็จะสามารถดูแลราคาดีเซล ต่อเนื่องไปได้อีก แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกรุนแรงขึ้นหรือมีความผันผวนตามขั้นตอนจะต้องเสนอมาตรการดูแลบรรเทาผลกระทบ และนำเสนอให้ กกต. พิจารณา เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้า

 

 

 

สำหรับรายงานฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 28 พ.ค.66 ติดลบ 69,427 ล้านบาท
– บัญชีน้ำมัน -22,920 ล้านบาท
– บัญชีก๊าซ LPG -46,507 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม – 20 กรกฎาคม 2566 เพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และความเป็นอยู่ของประชาชนจากภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวน อันเนื่องมาจากวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจนส่งผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้าน้ำมันดิบ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น