เปิดราคาทหารรับจ้าง PMSCs ในนามบริษัทความมั่นคงฯ เอกชนการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารเขมร

“Top Biz Insight” เปิดเบื้องหลังธุรกิจ “ทหารรับจ้าง” PMSCs ค่าตอบแทนไม่ธรรมดา ความเลวร้ายที่ “กัมพูชา” ไม่สิทธิใช้กับประเทศไทย – Top News รายงาน

เปิดราคาทหารรับจ้าง ในนามบริษัทความมั่นคงฯ เอกชน การสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารเขมร ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการพูดถึงทหารรับจ้างที่มีข่าวออกมา ว่า เขมร จ้างมาช่วยรบกับประเทศไทย โดยเฉพาะการจ้างมาบังคับโดนพิฆาต ซึ่งเป็นโดรนประเภทเดียวกันกับที่ใช้ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน คือ การบังคับโดรนผ่านสายไฟเบอร์ออฟติก ที่ติดเอาไว้กับโดรน แทนที่จะเป็นการบังคับแบบไวเลส ทั่ว ๆ ไป ทำให้อุปกรณ์ ต่อต้านโดรนที่กองทัพไทยมีอยู่…. ไม่สามารถทำอะไรได้…….

ทั้งนี้หลายปีที่ผ่านมา คำว่า “ทหารรับจ้าง” หรือ “เมอร์เซอนารีส์” (Mercenaries) มักถูกมองว่า เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นอาชญากรรมสงครามภายใต้อนุสัญญาเจนีวา แต่ในโลกยุคใหม่นี้…. อย่างเป็นทางการย้ำนะครับว่า อย่างเป็นทางการ…. คือ อย่างเป็นทางการนั้น “เมอร์เซอนารีส์” ไม่มีครับ….. แต่มีธุรกิจหนึ่งเข้ามาแทนที่ …… ถมยังเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย….. ภายใต้การกำกับดูแลที่ทั่วโลกบอกว่า “เข้มงวด”…..นั่นก็คือ ธุรกิจบริษัทความมั่นคงและการทหารเอกชน หรือ Private Miltary and Security Companies (PMSCs)

ซึ่งวันนี้…..วันที่ 15 ธ.ค.2568….. opBiz Insight ได้เสาะแสวงหา และรวบรวมข้อมูลที่มีอยู่ของธุรกิจนี้…. ธุรกิจทหารรับจ้าง ที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า PMSCs มาเล่าสู่กันฟังครับ….. ก็จะเล่าตั้งแต่สถานะทางกฎหมายของ ธุรกิจนี้ไปจนถึงกลไกการกำกับดูแล ตลอดจนข้อมูลที่หลายคนอยากรู้ ซึ่งก็คือ “ค่าตอบแทน” ครับ…. ค่าตอบแทนของของพนักงาน ซึ่งก็คือ บรรดาทหารรับจ้าง หรือผู้ที่มีอาชีพในทางนี้ …. อย่างที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์ฮอลีวูดว่าราคาจริง ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น……มากแค่ไหน…. สงแค่ไหน สูงกว่าทหารประจำการทั่วไปมากเท่าไหร่ ใคร ที่จะมีคุณสมบัติเพียงพอในการทำงานแบบนี้ และพวกเขาเหล่านี้ ….มีพื้นเพ หรือมีที่มา…..อย่างไร

ก่อนอื่นเราต้องทำควาเข้าใจกันก่อนว่า Private Military and Security Companies (PMSCs) ไม่ใช่ทหาร รับจ้างแบบดั้งเดิม และมีความแตกต่าง ระหว่างทหารรับจ้างในความหมายดั้งเดิม กับ PMSC ในปัจจุบันอย่าง ชัดเจน คือ

ทหารรับจ้างแบบดั้งเดิมนั้น มักดำเนินการแบบนอกเหนือกฎหมายระหว่างประเทศ และมีเป้าหมายหลัก คือ การเข้าร่วมการรบ เพื่อผลประโยชน์ทางการเงินโดยตรง ซึ่งถือว่า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย

แต่ PMSC ……ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์ที่ถูกกฎหมาย และเน้นไปที่บริการสนับสนุนด้านความมั่นคงและการทหาร เป็นหลัก….ไม่ใช่การเข้าร่วมรบเชิงรุกโดยตรง แต่บริการเหล่านี้รวมถึงการคุ้มกันบุคคลสำคัญ / การบำรุงรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ / การฝึกอบรม และการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์

ธุรกิจ PMSC ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มีศูนย์กลางสำคัญที่ได้รับการยอมรับและมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในประเทศมหาอำนาจ….. ประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐอเมริกา: เป็นแหล่งกำเนิดและที่ตั้งของ PMSC รายใหญ่ที่สุดหลายบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่ให้บริการแก่รัฐบาลสหรัฐฯ เอง….. ขณะที่สหราชอาณาจักร หรือ อังกฤษ มีบริษัท PMSC ที่เป็นที่ยอมรับและมีการกำกับดูแลตนเองในระดับสูง รวมทั้ง อิสราเอล ก็มีบริษัทแบบนี้ บริษัท PMSC ที่มีความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีการทหาร ตลอดจนประเทศในยุโรปอื่น ๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีบทบาทในการกำกับดูแลระหว่างประเทศ

การดำเนินงานของ PMSC ไม่ได้เป็นบริษัทที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระ แต่ในหลักการแล้ว…. จะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด โดยรัฐบาลของประเทศต้นทาง รวมทั้ง ความตกลงระหว่างประเทศที่เรียกว่า ‘มองเทรอซ์ Montreux Document หรือ ความตกลงระหว่างประเทศ เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศที่ระบุแนวทางการกำกับดูแลเกี่ยวกับ บริษัททหารและการรักษาความปลอดภัยสำหรับเอกชนในเขตสงคราม ได้รับการให้สัตยาบันที่ เมืองมองเทรอซ์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อกันยายน พ.ศ. 2551

1. การควบคุมการส่งออก (Export Control): บริษัทเหล่านี้ต้องได้รับ ใบอนุญาตพิเศษ จากรัฐบาลเพื่อให้บริการด้านกลาโหมหรือส่งออกอาวุธไปยังต่างประเทศ เช่น ในสหรัฐฯ จะอยู่ภายใต้การควบคุมของ Directorate
of Defense Trade Controls (DDTC) และกฎหมาย International Traffic in Arms Regulations (ITAR)

2. เอกสาร Montreux (The Montreux Document): นี่คือความตกลงระหว่างประเทศที่สำคัญ แม้จะไม่ผูกพันทางกฎหมาย แต่ก็กำหนดพันธกรณีทางกฎหมายระหว่างประเทศของรัฐที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการของ PMSCs ในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธ ปัจจุบันมี 59 ประเทศให้การรับรอง

3. International Code of Conduct (ICoc): เป็นแนวทางปฏิบัติที่กำหนดมาตรฐานสากลด้านความ รับผิดชอบและสิทธิมนุษยชน โดยบริษัทที่เป็นสมาชิกจะต้องเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชน และใช้กำลังเท่าที่จำเป็นและได้สัดส่วน

• DDTC/ITAR (ควบคุมการส่งออกอาวุธ/บริการ)
• Montreux Document (กรอบกฎหมายระหว่างประเทศในเขตขัดแย้ง)
• ICOC (มาตรฐานจรรยาบรรณและสิทธิมนุษยชน)

การกำกับดูแลที่เข้มงวดนี้เองที่ทำให้ PMSC แตกต่างจากทหารรับจ้างทั่วไป และทำให้พวกเขาสามารถดำเนินงานได้อย่างเปิดเผยในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

ข่าวที่น่าสนใจ

“สถานทูตรัสเซีย” โพสต์แจงข่าวพลเมืองโผล่เป็นทหารรับจ้างให้กัมพูชาไม่เป็นความจริง ชี้เจตนาปล่อยข่าวหวังกระทบมิตรภาพ 2 ประเทศ

ตำรวจ-ฝ่ายปกครองโคราช ตรวจเข้มโรงแรมกลางเมือง ไม่พบทหารรับจ้างหรือบุคคลต้องสงสัย

ส่วนรูปแบบในการให้บริการของ PMSC นั้น สามารถแบ่งออกเป็นสามหมวดหมู่หลัก ซึ่งล้วนเป็นงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญและมักเป็นงานที่กองทัพประจำการไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือคุ้มค่า

1. การสนับสนุนทางการทหาร (Military Support Services):
• โลจิสติกส์: การจัดหาอาหาร น้ำมัน ยานพาหนะ และการซ่อมบำรุงในพื้นที่ปฏิบัติการ
• การฝึกอบรม: ฝึกอบรมกองทัพหรือตำรวจของรัฐบาลลูกค้าในด้านการใช้ยุทโธปกรณ์ใหม่หรือยุทธวิธีในการรบ
• การบำรุงรักษา: ซ่อมบำรุงเครื่องบิน รถถัง และอาวุธยุทโธปกรณที่มีความซับซ้อน

2. บริการคุ้มครอง/ความปลอดภัย (Security Services):
• การคุ้มกันบุคคลสำคัญ (PSD): คุ้มครองนักการทูต ผู้บริหาร หรือนักข่าวในพื้นที่เสี่ยง
• การคุ้มกันทรัพย์สินฐานทัพ: รักษาความปลอดภัยของสถานทูต ฐานทัพ หรือแหล่งพลังงาน
• การคุ้มกันทางทะเล (Maritime Security): คุ้มกันเรือสินค้าจากการโจรสลัด

3. บริการให้คำปรึกษาและข่าวกรอง (Advisory and Intelligence Services):
• การรวบรวมและวิเคราะห์ข่าวกรองเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
• การวางแผนยุทธศาสตร์ความปลอดภัย

ทั้งนี้ พนักงานของ PMSC ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันทางกฎหมาย ดังนั้น หากพวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสู้รบและถูกจับได้ พวกเขาจะไม่ได้รับสถานะเป็นเซลยศึก (Prisoner of War – POW) แต่จะถูกพิจารณาว่า เป็นพลเรือน ที่เข้าร่วมการสู้รบโดยตรง ซึ่งอาจนำไปสู่การดำเนินคดีในศาลของประเทศนั้น ๆ ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL)

เมื่อเรารู้จักกับ เรียกว่า ‘มองเทรอซ์’ Montreux Document หรือ ความตกลงระหว่างประเทศ ที่ทำไว้เพื่อระบุแนวทางการกำกับดูแลเกี่ยวกับ บริษัท ทหารและรักษาความปลอดภัยเอกชนในเขตสงครามแล้ว ทีนี้มาดูกันว่า มีประเทศไหนในเอเชีย ที่ยอมรับ และเข้าร่วมในความตกลงนี้บ้าง

ไม่มีประเทศในอาเซียนเลย….. หายถึงไม่มีประเทศไทย ไม่มีเขมร และไม่มีมาเลเซีย เห็นมั้ยครับ

เอกสาร Montreux เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างธรรมาภิบาลในอุตสาหกรรมนี้ และหลายประเทศในเอเชีย ก็ได้เข้าร่วมสนับสนุนเอกสารนี้ “อย่างเป็นทางการ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของการพึ่งพา PMSC ใน ภูมิภาค

ส่วนเหตุผลที่ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้เข้าร่วมในความตกลง ‘มองเทรอซ์” ซึ่งเท่ากับยอมรับบริการที่มีลักษณะคล้ายกับทหารรับจ้างนั้น จากข้อมูลที่ TopBiz Insight สืบค้นมาได้ คือ

1. สร้างความชัดเจนทางกฎหมายคือ : เพื่อใช้ ‘มองเทรอซ์ เป็นกรอบในการร่างกฎหมายภายในประเทศเพื่อควบคุม PMSC ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

2. ลดความเสี่ยงทางชื่อเสียง: ก็คือ แสดงความรับผิดชอบอย่างรอบด้าน (Due Diligence) เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกกล่าวหาว่าละเลย หาก “บริษัทที่ว่าจ้าง” ที่อยู่ในประเทศของตนเอง เกิดกระทำผิดขึ้นมา

3. ตอบสนองความต้องการความมั่นคง: ตรงนี้ว่ากันว่า หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศ (เช่น จีน, กาตาร์) จำเป็นต้องใช้ PMSC ในการคุ้มกันทรัพย์สินและบุคลากรในพื้นที่เสี่ยง ภัย

4. เพื่อแสดงบทบาทในเวทีโลก: ซึ่งก็คือ ประเทศที่ยอมรับ มองเทรอซ์ เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุน และปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

ส่วนประเด็นสำคัญที่หลายคนอยากรู้คำตอบ ก็คือ ค่าจ้าง’ ของผู้ปฏิบัติงานใน บริษัทความมั่นคงและการทหารเอกชน ซึ่งเห็นแล้ว ตกใจครับ เพราะเป็นค่าจ้างที่สูงมาก…. เหมือนในภาพยนตร์ แต่ตรงนี้.. เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยง และทักษะที่พวกเขามี และต้องนำไปแลกกับค่าจ้าง

คือ ค่าจ้างของพนักงาน PMSC นั้น….. สูงกว่าทหารประจำการทั่วไปมาก และโดยทั่วไป มักจะจ่ายเป็นระบบ ค่าจ้างรายวัน (Day Rate) หรือ เป็นสัญญาจ้างแบบเหมาจ่าย (Fixed-Price Contract)

ปัจจัยหลักในการกำหนดค่าจ้างคือ ความเสี่ยง และ ความเชี่ยวชาญ เช่น

• ระดับความเสี่ยง (Threat Level) : ยิ่งพื้นที่อันตราย (เช่น เขตสงคราม) ค่าตอบแทนยิ่งสูง
• ความเชี่ยวชาญ/ตำแหน่ง (Expertise) : ผู้ที่มาจากหน่วยรบพิเศษ (Special Forces) หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระดับสูง จะได้รับค่าจ้างสูงสุด

• ทักษะเฉพาะทาง: เช่น แพทย์สนาม ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิด (EOD), นักบิน
• ลูกค้า: รัฐบาลมหาอำนาจมักจ่ายสูงกว่าบริษัทเอกชน
บุคคลเหล่านี้ มาจากไหนกันครับ….. มีพื้นเพมาจากไหนกัน

เห็นมั้ยครับ…..ประสบการณ์ของบุคลากรในแต่ละระดับตั้งแต่ เทียร์ 1 ลงมาจนถึงบุคลากรในระดับทหารผ่านศึก…. ก็ยังต้องมีประสบการณ์ในพื้นที่ที่โหดที่สุดของการทำสงครามก็คือ อิรัก / อัฟกานิสถาน

ดังนั้น เราจึงไม่แปลกใจที่เห็นตัวเลขค่าจ้างของบุคคลเหล่านี้ ที่ได้จากการสืบค้นข้อมูลที่มีอยู่บนโลกใบนี้ข้อมูลจากอุตสาหกรรมนี้ เป็นแบบนี้ครับ

มากกว่า 4 แสนเหรียญต่อปี ถ้าคูณด้วย 32 บาท ก็คือ 12.8 ล้านบาทขึ้นไป….. อันนี้คือ ค่าจ้างสูงสุดต่อปี หรือหากเป็น ช่างเทคนิค รายได้ต่อปีที่ต่ำสุดคือ ปีละ 7.5 หมื่นเหรียญ ถ้าคูณด้วย 32 บาท ก็เท่ากับปีละ 2.4 แสนบาท

อันนี้เป็นการคำนวณจากจำนวนวันที่ปฏิบัติงานจริง ซึ่งอาจสูงถึง 300 วันต่อปี….. ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ปฏิบัติงานระดับสูงสุด หรือ Tier 1 Operator ที่มาจากหน่วยรบพิเศษชั้นนำของโลกนั้น อาจมีรายได้สูง ถึง 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน หรือมากกว่านั้น ซึ่งเทียบเท่ากับรายได้ต่อปีที่สูงกว่า 14 ล้านบาท เลยทีเดียว

นอกจากค่าจ้างหลักแล้ว พนักงาน PMSC ยังจะได้รับสวัสดิการพิเศษที่ครอบคลุมความเสี่ยงสูงอีก เช่น

เห็นมั้ยครับ ค่าตอบแทนความเสี่ยง (Hazard Pay) และที่สำคัญคือ ประกันสงคราม (War Risk Insurance) ที่มีราคาสูงมาก เพื่อครอบคลุมการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเขตความขัดแย้ง

บริษัทความมั่นคงและการทหารเอกชน หรือ PMSC จึงเป็นภาพสะท้อนของความต้องการด้านความมั่นคง ที่ซับซ้อนในโลกยุคใหม่ พวกเขาเติมเต็มช่องว่างที่กองทัพประจำการไม่สามารถเข้าถึงได้ หรือไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่การเติบโตของธุรกิจนี้ ก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านกฎหมายและจรรยาบรรณที่ต้องมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด

ดังนั้นการที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศในเอเชียจำนวนมาก ให้การรับรองเอกสาร Montreux และมีกลไกควบคุมการส่งออกอาวุธอย่างชัดเจน ก็เป็นเครื่องยืนยันว่า แม้จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้กำลังพลเอกชน แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและมาตรฐานสากล

และสำหรับผู้ปฏิบัติงานนั้น ตัวเลขค่าตอบแทนที่สูงขนาดนี้ คือ การแลกมาด้วยความเสี่ยงในชีวิตที่สูงกว่างานทั่วไปแบบเทียบกันไม่ติด….. แต่ก็เป็นราคา ที่ผู้ว่าจ้าง ต้องจ่ายในสมรภูมิความมั่นคงเอกชนแห่งนี้

ส่วนข่าวที่ว่า เขมรจ้าง ‘ทหารรับจ้าง’ มาช่วยรบกับประเทศไทยนั้น… โดยเฉพาะการเข้ามาทางเกาะพงัน นั้น เมื่อวาน ขณะแถลงสรุปสถานการณ์การสู้รบประจำวัน…. ตัวแทนจาก สตช.พูดชัดเจนว่า ตม. ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ตรงนี้ เราคงต้องฟังนะครับ….. ส่วนฟังแล้ว ใครจะคิดยังไง…. คิดว่า ประเทศไทย ใครจะมาใครจะไป ถ้ามีเงินจ่ายใต้โต๊ะ….ก็ง่าย ๆ สบายๆ….. คิดแบบนี้ ก็คิดได้นะครับ…..

แต่ภายใต้สถานการณ์นี้ อย่าเพิ่งคิดครับ…. คิดส่งใจให้ทหารไทย และพ่อแม่พี่น้องที่ต้องอพยพจาก บ้านเรือน คิดว่า ทำไม คจตถ. หรือ เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง รุ่นใหม่เอี่ยม ราคาลูกละ 5.5 ล้านบาท Made in China … ถึงได้อยู่ในมือทหารเขมร /และคิดว่าในช่วงที่ทางการประกาศเคอร์ฟิวใน 5 อำเภอของจังหวัดตราด ประกาศห้ามประชาชนออกนอกบ้านตั้งแต่ 1 ทุ่ม ยันตี 5 นั้น ช่วงนี้ เป็นช่วงที่ทุเรียนกำลังออกดอก และปกติชาวสวน….จะต้องออกไป “ปัดดอกทุเรียน” ในช่วงเวลา 1 ทุ่ม ถึงตี 5 พอดี ….. ตรงนี้จะทำยังไงกัน….. คิด 2-3เรื่องตรงนี้ก่อน ดีมั้ยครับ

PMSCs, ธุรกิจทหารรับจ้าง, กัมพูชา, ทหารรับจ้าง, Top Biz Insight

ข่าวที่เกี่ยวข้อง