เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ร.ต.อ.เฉลิมพงษ์ สินธุไสย ร้อยเวร สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ตกจากแพข้ามเขื่อนลำปาวจมลงไปในน้ำ พร้อมคนขับ ซึ่งเป็นพระภิกษุสงฆ์ บริเวณแพข้ามฟากเขื่อนลำปาวพื้นที่ ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ วีระศิริ ผกก.สภ.หนองกุงศรี พร้อมประสานไปยังชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยสามัคคีกตัญญูกาฬสินธุ์ หน่วยกู้ภัยกุดหว้า หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม หน่วยกู้ภัยสว่าง และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลลำคลอง
โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณจุดแพข้ามฟากเขื่อนลำปาวบ้านน้อยดอนหมวย ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี เชื่อมต่อกับบ้านสะอาดนาทม ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่และนักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยช่วยกันงมค้นหารถยนต์ และร่างของของพระภิกษุ ทราบชื่อต่อมาคือพระคำกอง มูลสิทธิ์ 47 ปี พระลูกวัดบ้านนาสีนวล ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี แต่ก็ยังไม่พบทั้งรถทั้งคน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวน้ำค่อนข้างลึกกว่า 6 เมตร ประกอบกับไหลแรง จึงทำให้การค้นหาลำบาก
กระทั่งต่อมาญาติและชาวบ้านพากันจุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์และขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ตลอดจนพระแม่คงคา อีกทั้งเจ้าหน้าที่และนักประดาน้ำได้จึงกระจายกำลังเรียงหน้ากระดานงมค้นหานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงสามารถนำร่างของพระคำกอง และรถยนต์ขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ ห่างจากจุดตกกว่า 100 เมตร
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพระคำกอง ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค รุ่นเก่า สีแดงเลือดหมู ทะเบียน กฉ 6219 กาฬสินธุ์ มากับพระสะเทือน อาภัสโส อายุ 52 ปี พระวัดอัมพวันศรีบุญเรือง บ้านศรีบุญเรือง ต.เสาเล้ามาขึ้นใช้บริการแพข้ามฟากจากฝั่งบ้านน้อยดอนหมวย ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี ไปข้ามไปยังฝั่งบ้านสะอาดนาทม อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยแพดังกล่าวเป็นลักษณะแพเหล็กกว้างประมาณ 6 เมตร และยาวประมาณ 8 เมตร ให้บริการรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชาวบ้านข้ามฟาก โดยใช้แรงคนชักลอกข้ามฟาก ซึ่งระหว่างพระคำกองกำลังขับขึ้นไปบนแพ พร้อมกับพระสะเทือนที่นั่งข้างคนขับ แต่รถกลับเบรกไม่อยู่ขับเลยแพออกไปจนตกลงไปในน้ำ ซึ่งพระสะเทือนสามารถออกมาได้ระหว่างที่รถกำลังค่อยๆจมน้ำ ส่วนพระคำกองจมหายไปพร้อมกับรถ
ทั้งนี้จากการสอบถามพระสะเทือน อาภัสโส อายุ 52 ปี กล่าวว่า ตนและพระคำกอง จำพรรษาอยู่กันคนละวัด แต่อยู่ในตำบลเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุ พระคำกองได้ขับรถเก๋งมารับที่วัด เพื่อไปรับกิจนิมนต์ฉันท์เพลที่บ้านญาติโยมใน ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยใช้เส้นทางลัดนำรถขึ้นแพข้ามฟาก เพื่อย่นระยะทาง ซึ่งระหว่างที่พระคำกอง ซึ่งเป็นคนขับ และตนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับกำลังขับรถขึ้นบนแพ ปรากฏว่าอยู่ดีๆรถเก๋งเหมือนกลับเบรกไม่อยู่และกำลังจะเลยแพ ซึ่งช่วงที่รถกำลังจะตกลงในน้ำเขื่อนลำปาว ตนจึงตะโกนเรียกให้พระคำกองออกจากรถ ซึ่งตนตัดสินใจกระโดดลงมาก่อนที่รถตกลงน้ำรอดมาได้หวุดหวิด ส่วนพระคำกองออกมาไม่ทันจมไปพร้อมกับรถและเสียชีวิต
ด้านนางกาจน์ มูลสิทธิ์ อายุ 75 ปี ยายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ทราบข่าวพระคำกอง ซึ่งเป็นหลานตกน้ำพร้อมกับรถตนตกใจอย่างมาก จึงรีบพากันมาจุดเกิดเหตุ ทั้งนี้สำหรับพระคำกองนั้น พ่อแม่เสียชีวิตแล้วไปหลายปี แม้บวชเป็นพระก็จะมาเยี่ยมและดูแลตน ผู้เป็นยายตลอด เพราะเป็นคนกตัญญู ซึ่งทราบว่าเพิ่งซื้อรถคันเก๋งมือสองมาใหม่ และเพิ่งขับรถเป็นได้ประมาณ 4-5 เดือน แต่บอกว่ารถมีปัญหา เบรกไม่ค่อยอยู่ ตนจึงเตือนและบอกให้รีบเอาไปซ่อม แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก่อน ตนเสียใจมากและยังทำใจไม่ได้
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิมพงษ์ สินธุไสย ร้อยเวร สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งพระที่มาด้วยกันและคนดูแลแพ รวมทั้งพยานแวดล้อม เบื้องต้นคาดว่ารถเก๋งคันดังกล่าวอาจจะมีปัญหาเรื่องเบรก จึงเบรกไม่อยู่ขับเลยแพจนตกลงไปในน้ำเสียชีวิต ซึ่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่นำศพขึ้นมา เบื้องต้นญาติไม่ติดใจ จึงได้มอบศพให้นำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป.
ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์
