No data was found

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณคนไทยช่วยอุดหนุนมังคุดกว่า 2 หมื่นตัน

กดติดตาม TOP NEWS

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณคนไทย ช่วยอุดหนุนผลไม้ไทย มังคุดขายได้เกิน 2 หมื่นตันดันราคาขึ้น พาณิชย์ลุยตลาดตะวันออกกลางเพิ่มส่งออก

วันที่ 14 ส.ค. – นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี แะรมว.กลาโหม  ได้ติดตามสถานการณ์ราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งที่ผ่านมาชาวสวนมังคุดได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างมาก ทำให้การกระจายสินค้าและการส่งออกมีปัญหา อีกทั้งปีนี้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เป็นกลไกขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ได้ปรับกลยุทธ์เน้นการบริโภคภายในประเทศทดแทนการส่งออก จนถึงวันนี้สามารถดึงมังคุดออกจากแหล่งผลิตได้กว่า 20,000 ตัน ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 13-15บาท/กิโลกรัม จากเดิมที่เคยต่ำกว่า 6 บาท สำหรับมังคุดเกรดคละและมังคุดเกรดคุณภาพ ราคาใกล้แตะที่กิโลกรัมละ 50 บาท ตามรายงานล่าสุดของกรมการค้าภายใน

 

ประกอบกับสามารถแก้ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกขาดแคลน ปัญหาโลจิสติกส์และปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงาน และล้งจากภาคตะวันออกลงใต้ คลี่คลายได้ระดับหนึ่ง เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นฮับมังคุดภาคใต้ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมมีเพียง 46 ล้ง ปัจจุบันมีล้งเพิ่มเป็นกว่า 200 รายและแผงรับซื้อผลไม้กว่า 400 แผงที่เข้าไปรับซื้อในพื้นที่ รวมทั้งความร่วมมือกับเหล่าทัพ ภาครัฐ ภาคเอกชนในการกระจายมังคุด เช่น ผ่านระบบร้านค้าส่ง ค้าปลีก ร้านธงฟ้า เครือข่ายปั๊มน้ำมัน ช่วยกระจายได้ 1 ล้านกิโลกรัม และโครงการส่งผลไม้ฟรีผ่านไปรษณีย์ไทย คาดว่าจะช่วยได้อีก 2 ล้านกิโลกรัม สำหรับปัญหาลำใยและเงาะที่ช่วงนี้ราคาลดลง คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ได้เข้าไปดูแลแล้วเช่นกัน

 

นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า นายกฯได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันอุดหนุนผลไม้ไทย แสดงให้เห็นว่า การช่วยซื้อคนละจำนวนไม่ต้องมาก แต่เมื่อรวมกันแล้วก็เป็นจำนวนมาก พอที่จะช่วยดันราคาให้สูงขึ้น เกษตรกรมีรายได้ ทั้งนี้ ยังได้รับทราบรายงานจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่า กำลังเร่งเปิดตลาดใหม่ด้วยโครงการจับคู่ธุรกิจเพื่อเจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ในตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาติน อเมริกา ซึ่งผู้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจเป็นผู้ส่งออกไทยจำนวน 123 บริษัท และมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น จำนวน 74 ราย เกิดการจับคู่ธุรกิจได้จำนวน 123 คู่ ซึ่งจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งเพื่อขยายตลาดส่งออกโดยเฉพาะผลไม้และผลิตภัณฑ์ผลไม้ของไทยด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชุมชนในโครงการ “ป่าปลอดเผา” อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ สนับสนุนโดยเครือซีพี โมเดลต้นแบบป้องกันไฟป่า ลดฝุ่น PM2.5 แนวเขตชายแดนไทย-พม่า
แม่เล้าค้ากาม ขบวนการส่งหญิงไทยขาย-บังคับค้าประเวณีที่ดูไบ ถูกสอบสวนกลางรวบ คาสนามบิน
“พิมพ์​ภัทรา” ห่วงหน้าฝน สารพิษปนเปื้อนลงน้ำ สั่งเข้มเฝ้าระวัง​ ย้ำโรงงานไฟไหม้ไม่ใช่แค่วางเพลิงทั่วไป
"ศุภมาส" ยกระดับวิทย์ไทย อว.พัฒนาอุตฯ "รำข้าว" สร้างโอกาสเชิงพาณิชย์
พายุฝนถล่มน้ำท่วมผิวการจราจรทำให้ถนนลื่นคนขับรถบรรทุกใจหายล้อหลังหลุดออกจากตัวรถหกล้อ
ชาวบ้านน้ำโจ้ระทม พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านพัง ผ่านไป 4 วัน ไร้เงาสส.ดูแล ด้านผู้ใหญ่บ้าน ร้องขอกำลังพลทหารช่วยซ่อมแซม
ฝนกระหน่ำแปดริ้วอ่วมน้ำท่วมเมือง
ฟิลิปปินส์ ว่ายน้ำเย็นฉ่ำกับ ‘ก้อนน้ำแข็ง’ กลางสระ
สีย้ำจีนหนุนคุยสันติภาพที่ทั้งรัสเซียและยุเครนมีส่วนร่วม
"ทนายตั้ม" ตามคดีฟ้อง "บิ๊กต่อ" และภรรยา ยื่นหนังสือเตือนผกก.สน.เตาปูน ผ่าน 30 วัน ไร้ความคืบหน้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น