วันนี้ผู้สื่อข่าว Top News ลงพื้นที่ไปบริเวณถนนราชวิถี ฝั่งมุ่งหน้าไปทางสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนถูกคนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าที่ลำคอจนล้มทั้งยืน บนถนนเชิงสะพานข้ามแยกสามเหลี่ยมดินแดง จากการเดินสำรวจทั้งสองฝั่ง พบมีกล้องวงจรปิดทั้งจากร้านค้าตามริมฟุตบาท รวมไปถึงกล้องวงจรปิดจาก กทม.และกล้องวงจรปิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่พึ่งเข้ามาติดตั้งภายในซอย
ผู้สื่อข่าวเดินสำรวจตั้งแต่ซอยราชวิถี 2 ไปจนถึงซอยราชวิถี 8 ที่มุ่งหน้าไปแยกสามเหลี่ยมดินแดงก่อนจะข้ามไปสำนักงาน ป.ป.ส. ภายในซอยราชวิถี 4 ราชวิถี 6 และราชวิถี 8 มีกล้องวงจรปิดติดอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าปากซอย หันหน้าออกถนนใหญ่ แต่กล้องวงจรปิดตรงซอยวิภาวดี 6 เป็นกล้องดัมมี่ ยังไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับมิเตอร์ไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ ส่วนกล้องวงจรปิดหน้าร้านขายแว่นปากซอยราชวิถี 6 ซึ่งเป็นกล้องเอกชน ก็ติดหันไปทางสามเหลี่ยมดินแดง ลักษณะมุมกล้องปักลงไปที่พื้น เห็นเฉพาะฟุตบาทหน้าร้านเพียงอย่างเดียวไม่ได้เห็นเป็นลักษณะมุมไกล
จากนั้น ผู้สื่อข่าวข้ามไปยังอีกฝั่ง มีร้านขายของ บางร้านก็มีกล้องวงจรปิดอยู่หน้าร้าน ลักษณะการตั้งมุมกล้อง จะเห็นแค่พื้นที่ฟุตบาทและหน้าร้านของเท่านั้น ไม่ได้เห็นมุมกว้างแต่อย่างใด นอกจากนี้กลางถนนใกล้กับจุดที่ตำรวจถูกยิง ผู้สื่อข่าวยังพบลูกเหล็กหรือลูกปรายลูกเล็กและลูกใหญ่ 2 ลูก คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนที่มาจากฝั่งผู้ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ ที่ลงพื้นที่มาหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ได้ข้อมูลว่า ภาพกล้องวงจรปิดที่เห็นชัดที่สุดคือ วงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บนเสาโครงเหล็กเชิงสะพานข้ามแยกสามเหลี่ยมดินแดง ของกทม. มุมกล้องหันไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบได้เปิดภาพวงจรปิดกล้องตัวดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวดู เผยให้เห็นวินาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวถูกยิง ลักษณะล้มทั้งยืน มีเพื่อนตำรวจรีบเข้ามาดูอาการ ตำรวจสายสืบนายนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกว่า ยังไม่แน่ชัดว่าวิถีกระสุนมาจากฝั่งไหน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะถูกยิงมาจากฝั่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิหรือริมฟุตบาท ไม่ฝั่งใดก็ฝั่งหนึ่ง เพราะว่าตำรวจที่ถูกยิงหันหน้าไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และหมวกที่ใส่ก็มีแผ่นป้องกันยาวไปถึงท้ายทอย หากคนร้ายยิงมาทางฝั่งสามเหลี่ยมดินแดง ก็อาจจะถูกแผ่นป้องกัน แต่นี่ถูกยิงเข้าที่ลำคอ อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบหาวิถีโค้งของกระสุนอีกที ว่าถูกยิงมาจากฝั่งไหน
ด้านพ่อค้าแม่ค้าที่ทำมาค้าขายบริเวณจุดที่มีการปะทะ ส่วนใหญ่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกกลัวและอันตรายมาก พอเกิดเหตุก็รีบปิดร้านทันที อย่างแม่ค้าขายขนมจีนรายนี้ บอกว่า รู้สึกเบื่อกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะทำมาค้าขายไม่ได้ มีม็อบทีไรก็ต้องรีบปิดร้าน นอกจากนี้ที่ร้านก็ติดกล้องวงจรปิดแต่เสียดายที่มุมกล้องไม่สามารถเห็นภาพที่ตำรวจถูกยิง ซึ่งอาจเป็นหลักฐานสำคัญกับตัวผู้ก่อเหตุก็ได้ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมลักษณะนี้ แต่ถ้าเป็นการชุมนุมที่ปกป้องสถาบันเบื้องสูง ก็จะสนับสนุนเต็มที่
ขณะที่แม่ค้าขายหมูปิ้ง เล่าเหตุการณ์วันที่ตำรวจเข้ากระชับพื้นที่ว่า ตนเองได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดอยู่ตลอดเวลา จึงรีบวิ่งเข้าไปหลบด้านในของร้าน จากนั้นก็มีตำรวจ เดินเข้ามาบอกว่า ขอขึ้นไปที่บนดาดฟ้า เนื่องจากอาจมีผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจที่อยู่กลางถนน แม่ค้ารายนี้ยังบอกอีกว่า หากเป็นการชุมนุมที่ปราศจากความรุนแรงตนเองก็เฉยๆ แต่ถ้าเป็นการชุมนุมแบบนี้ นอกจากอันตรายแล้วก็ยังทำมาค้าขายไม่ได้อีกด้วย และล่าสุดการสืบสวนสอบสวนหามือยิง ตำรวจสืบสวนนครบาล 1 ฝ่ายสืบสวนสน. พญาไท และฝ่ายสืบสวนสน. ดินแดง ก็ยังคงลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม และมีการประชุมเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
