นายปรเมศร์ งามพิเซษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า จากงบประมาณปี 2566 ที่ผ่านการพิจารณาแล้ว เมืองพัทยามีงบประมาณทั้งที่เป็นงบประจำและงบพัฒนาทั้งสิน 3,450 ล้าน ในงบนี้เป็นงบประจำ 2,150 ล้านบาท งบพัฒนา 1,300 ล้านบาท โดยเป็นงบที่ได้จากการเก็บภาษี 1,750 ล้านบาท งบจากรัฐ 1,700 ล้านบาท พัทยาจึงพร้อมแล้วที่จะกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ได้ลดความรุนแรงลง และจากการที่ไทยยกเลิก Thailand Pass ไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวจากรัสเซียก็เริ่มกลับมาอีกครั้งมียอดจองที่พักยาวไปถึงเมษายนปีหน้าแล้ว นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศใหม่ๆ เข้ามา เช่น จากอินเดีย เวียดนาม ไต้หวัน และฟิลิปปินส์อีกด้วย โดยจากยอดนักท่องเที่ยวต่างขาติที่เข้ามาท่องเที่ยวไทยในปีนี้ เป็นนักท่องเที่ยวที่มาที่พัทยาถึง 2 ล้านคน หรือร้อยละ 20 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 10 ล้านคน ณ วันที่ 10 ธันวาคม 2565
ทั้งนี้ กิจกรรมที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สนใจมาเที่ยวเมืองพัทยา ในส่วนที่เป็นเทศกาลที่พัทยาเคยจัดมาโดยตลอด เราจะยกระดับเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ กิจกรรมที่เมืองพัทยาได้ทำไปแล้ว อาทิ เทศกาลพลุ พัทยาเรายกระดับเป็นเทศกาลพลุนานาชาติ งาน Pattaya Festival Neon Light ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยว และในกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ เราได้ร่วมกับ อบจ.ชลบุรี จัดงาน Pattaya Countdown 2023 อย่างยิ่งใหญ่ 3 วัน 3 คืน 29-31 ธันวาคมนี้ ที่แหลมบาลีฮาย นอกจากนี้ เรายังมีเป้าหมายที่จะทำให้พัทยาเป็นเมืองภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2570 อีกด้วย
นายกเมืองพัทยา กล่าวถึงจุดแข็งที่เป็นเสน่ห์เมืองพัทยาที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคือ พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ตอบสนองนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งแนว Night life หรือกีฬาต่างๆ มีที่พัก อาหาร ให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ ทั้งโรงแรมและรีสอร์ท ที่สำคัญ Pet Friendly การเดินทางสะดวกไม่ไกล เป็นทั้งเมืองสำหรับการมาพักผ่อนทั้งยามราตรี และกลางวัน ตลอดจนเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานประชุม สัมมนา งานประชุมทางวิชาการ งานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (MICE City)
“ในอนาคตอันใกล้ หากเราสามารถพัฒนาพัทยา ให้เป็นเมืองอัจฉริยะหรือ Smart City ได้ ยิ่งจะทำให้พัทยาเป็นเมืองน่าอยู่และน่าท่องเที่ยวยิ่งขึ้น ที่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ทุกเทศทุกวัย ทุกชาติ ทุกภาษา สามารถมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย สะดวกสบาย ตามนโยบาย Better Pattaya ที่เรามุ่งมั่นพัฒนาพัทยาที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ” นายกเมืองพัทยากล่าว
