ผู้สื่อข่าวรายงาน ภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เช้าวันนี้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติครั้งที่2/2564 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ เนื่องจากยังคงกักตัวภายในบ้านพัก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ. ) โดยในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) นายกรัฐมนตรี จะมีการตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ในรอบที่ 3 หากผลเป็นลบ ไม่ติดเชื้อ ก็คาดว่าจะเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ
สำหรับ วาระการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 เตรียมพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินหลังสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ พิจารณาหลักเกณฑ์การอนุมัติค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พิจารณาการเปิดโครงข่ายภายใต้โครงการขยายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการดำเนินการตามนโยบายให้ท้องถิ่นรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตสาธารณะประจำหมู่บ้านและการโอนทรัพย์สินภายใต้โครงการเน็ตประชารัฐและส่งต่อขยายให้บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ สั่งการให้ทุกกระทรวงช่วยกันชี้แจงกรณีข่าวบิดเบือน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและเกิดความสับสนในประชาชน พร้อมให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งดำเนินการกับคนที่ทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริงซึ่งบางครั้งไม่ได้ทำครั้งเดียวแต่มีเจตนาทำซ้ำจึงมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 13.30 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ หรือ ก.น.จ. ครั้งที่ 2/2564
ทั้งนี้ แม้จะอยู่ในช่วงการกักตัว นายกรัฐมนตรี ยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานเรียกขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและให้รายงานความคืบหน้าตลอดเวลา โดยเฉพาะคลัสเตอร์ใหม่ที่เกิดขึ้น เพื่อประเมินสถานการณ์ และสั่งการในการแก้ไขปัญหาหลังจากที่มีการออกคำสั่งล็อกดาวน์ไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
ในวันศุกร์ที่ 16 ก.ค.นายกรัฐมนตรี จะรับฟังรายงานผลการดำเนินการตามมาตรการล็อกดาวน์หลังบังคับใช้ผ่านไป 5 วัน จากศปก.ศบค. จากนั้นจะเป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่เพื่อประเมินสถานการณ์ในภาพรวมทั้งหมด โดยต้องติดตามว่าจะมีคำสั่งอะไรออกมาเพิ่มเติมเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งวันนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ สูงถึง 9,317 ราย เสียชีวิต 87 ราย
