No data was found

แกะเส้นทางอุ้มฆ่าโหด 2 ศพฝังโบกปูน พบเข้าออกได้ 4 หมู่บ้าน

กดติดตาม TOP NEWS

ทีมข่าม Top News ลงพื้นที่แกะเส้นทางฆาตกรรมโหด 2 ศพ นำร่างฝังเปลือย พบเข้า-ออก ได้ 4 หมู่บ้าน เชื่อมถนนหลวง 224 สายโชคชัย-ครบุรี

ความคืบหน้าการติดตามคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรมอำพราง นำศพลักษณะเปลือยกาย 2 ศพมาฝังดิน ภายในป่า สาธารณะริมถนนหมู่บ้านดอนไพลหมู่ที่ 1 ต.รุ่งอรุณ เชื่อมต่อหมู่บ้านดอนไพลหมู่ที่ 7 ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โดยเป็นชายต่างชาติ 1 ราย และ หญิงชาวไทย 1 ราย ซึ่งฝ่ายหญิงมีจุดสังเกต คือ มีรอยสักที่บริเวณสะโพก นั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.บุญโปรด ประเสริฐศักดิ์ ผู้กำกับการ สภ.โชคชัย ได้เรียกชุดฝ่ายสืบสวนของตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เข้าร่วมประชุมเพื่อเร่งคลี่คลายคดี และรวบรวมพยานหลักฐานชิ้นสำคัญของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทั้งหมดลงพื้นที่ปูพรมกระจายกำลังหาหลักฐานจำพวกเสื้อผ้า หรือ ของใช้ส่วนตัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย โดยกำจัดวงรัศมีการหารอบจุดเกิดเหตุ 500 เมตร แต่ขณะนี้ก็ยังไม่พบอะไร

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่ทีมข่าว Top News ได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางเข้าออกบริเวณรอบที่เกิดเหตุภายในสวนป่าพบศพ พบว่า จากจุดที่พบศพสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ห่างจากถนนทางหลวงหมายเลข 224 สายโชคชัย-ครบุรี ประมาณ 500 เมตร คือ ด้านข้างฝั่งตะวันตก เป็นถนนลูกรังเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ระยะทางประมาณ 70 เมตร และฝั่งตะวันออก เป็นถนนลูกรังเข้าไปยังจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จากการคาดเดาของทางเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายน่าจะเดินทางเข้ามาทางฝั่งตะวันตก เนื่องจากเวลากลางคืนสามารถเดินเข้าไปได้สะดวกกว่า โดยที่ไม่มีแสงส่องสว่าง และอยู่ไม่ห่างจากถนนมากนัก อีกทั้งจากการตรวจสอบยับพบว่า ทางเข้าออกทั้ง 2 ทาง จะมีถนนเชื่อมไปยังชุมชนหลายแห่ง อาทิ ชุมชนทุ่งอรุณ, โกรกน้ำใส, หัวสะพาน และปอพาน ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร สามารถทะลุออกไปยังถนนทางหลวงหมายเลข 224 นครราชสีมา-โชคชัย ได้ทั้งหมด ง่ายต่อการหลบหนี และไม่เป็นที่สังเกตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว

 

 

 

 

 

 

 

 

อีกทั้งทีมข่าว Top News ยังลองขับรถสำรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ บริเวณรอบจุดเกิดเหตุ รวมถึงทางแยกเข้าชุมชนต่างๆ และตามบ้านเรือนของประชาชชน ก็ไม่พบกล้องวงจรปิดแม้แต่ตัวเดียว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ขาดเบาะแสสำคัญในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ขณะเดียวกัน สำหรับการตรวจพบหัวกระสุนปืน และปลอกกระสุนจำนวนหนึ่งตกอยู่ในจุดที่พบศพนั้น มีรายงานยืนยันว่า หัวกระสุนและปลอกกระสุนปืนที่พบนั้น เป็นขนาด 9 ม.ม. ขณะที่การสืบสวนยืนยันตัวบุคคลที่เสียชีวิตทั้ง 2 รายนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือของผู้เสียชีวิต และตรวจสอบไมโครชิพที่อยู่ในซิลิโคลนเสริมหน้าของศพหญิงสาว ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบอีกระยะ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในพื้นที่ก็ยังไม่มีการแจ้งความบุคคลสูญหายแต่อย่างใด ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดของคดีนี้คือ การระบุตัวบุคคลทั้งสองที่เสียชีวิตว่าเป็นใคร เพราะเมื่อระบุตัวบุคคลได้แล้ว ก็จะนำไปสู่การตามหาสาเหตุของการฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ได้ไม่ยาก

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อัษฏางค์" โต้ชุดใหญ่ "พิธา" จ้อสื่อเยอรมนี ด้อยค่าปท.ชูวีรกรรมเด็ก 3 นิ้ว
ถึงศาลรธน.แล้ว "40 สว." ยื่นสอบคุณสมบัติ "พิชิต" พ่วงวินิจฉัยความสิ้นสุดลงตำแหน่งนายกฯ
สืบนครบาล รวบ "แก้ว สวนหลวง" อดีตนางพยาบาล หลอกเหยื่อลงทุนซื้อ "โควต้าลอตเตอรี่" เสียหายกว่า 3 ล้านบาท
"หมอเหรียญฯ" ไม่หวั่นถูกโจ๋ 14 ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ปมเรียก "กุ๊ย" ขอต่อสู้ตามกระบวนการกม.
"พิชิต"นำผอ.สำนักพุทธฯ แถลงยันเชื่อมจิต ไม่มีจริงในพระไตรปิฏก ไร้อำนาจหยุดยั้งทีม "น้องไนซ์"
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม อ.ก.ตร.กฎหมายครั้งที่ 5/2567
อดีตรองอธิการบดีมธ. เปิดความจริงปม "บุ้ง" เสียชีวิต ซัดกลุ่มบิดเบือน เลิกโหนตายเพราะเห็นต่าง
โปรดเกล้าฯ คืนสมณศักดิ์ "พระพรหมสิทธิ-พระศรีคุณาภรณ์" พ้นมลทินข้อกล่าวหาทุจริต
เกาหลีใต้ ศาลสูงตัดสินเห็นชอบแผนเพิ่มนศ.แพทย์
สโลวาเกีย เหตุลอบสังหารนายกฯ สะท้อนวิกฤตความรุนแรงการเมืองยุโรป

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น