วันที่ 8 กรกฎาคม 64 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาล้มเหลว ส่งผลต่อสภาพจิตใจของประชาชนและเกิดการฆ่าตัวตาย พร้อมแนะให้รัฐบาลสนใจกับปัญหาสุขภาพจิตคนไทยให้มากขึ้น ด้วยการวางตัวจากการเป็นผู้มีอำนาจ แล้วลองนั่งในหัวใจประชาชน จะได้รู้ความเดือดร้อนของประชาชนว่าสาหัสแค่ไหน โดยนายเสกสกล กล่าวว่าไม่เข้าใจว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ คิดอย่างไร ถึงได้ออกมาโพสต์เช่นนี้ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องหนีคดีออกไปจากประเทศไทย ตามรอยพี่ชายอย่างนายทักษิณนานเกินไป จึงอาจทำให้ลืมไปว่าในช่วงที่เป็นรัฐบาล บ้านเมืองเป็นอย่างไร และเกิดอะไรขึ้นบ้าง ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหน
ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาเคลื่อนไหวขับไล่เต็มบ้านเต็มเมือง มวลมหาประชาชนเดินไล่บนท้องถนนราชดำเนินมืดฟ้ามัวดิน เหตุใดถึงลืมเรื่องนี้ และการปกครองแบบโดนประชาชนขับไล่นั้น ทำให้คนไทยมีสุขภาพจิตดีอย่างไร
นายเสกสกลยังกล่าวว่านางสาวยิ่งลักษณ์ อย่ามาทำเป็นเสนอแนะรัฐบาล ทำให้ตนก็ต้องสะดุ้งไปด้วย เนื่องจากมองว่าหากในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ได้มาเจอวิกฤตเช่นเดียวกับรัฐบาลนายกฯประยุทธ์ คงยอมจำนน จมธรณีไปแล้ว คงไม่ได้ผุดได้เกิดไปไม่รอดอย่างแน่นอน เพราะตลอดการเป็นนายกฯไม่เคยได้แก้ปัญหาอะไรให้กับบ้านเมืองเลย แต่นายกฯพลเอกประยุทธ์ ได้รับรู้และเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างดี เพราะก่อนเกิดเหตุการณ์โควิดที่ผ่านมา นายกฯก็ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนเกือบทุกจังหวัด ทราบปัญหาความต้องการและความเดือดร้อนประชาขนทุกสาขาอาชีพเป็นอย่างดีได้ทุ่มเทตั้งใจแก้ไขปัญหาทุกเรื่องอย่างสุดความสามารถ จนสำเร็จลุล่วงไปมากมาย
อีกทั้งยังร่วมหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆเพื่อวางแผนเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดให้เร็วที่สุด และประชาชนก็เห็นใจเข้าใจดีว่า นายกฯทุ่มเททำงานเพื่อประชาชนโดยไม่มีเวลามาคิดโกงเงินค่าข้าวชาวนาเหมือนผู้นำบางคนและและในอดีตผู้นำบางคนยังคิดเตรียมโครงการกู้เงิน2.2ล้านล้านบาทมาทำอภิมหาโปรเจ็คเพื่อให้มีการแสวงผลประโยชน์เงินทอนให้กับใครบางคนที่ใกล้ชิดที่มีการวางแผนการณ์ที่ตนเองทราบดีว่า ใครได้ประโยชน์จากโครงการนี้
“ตรงกันข้ามกับนายกฯพลเอกประยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม รู้ดีว่าจะช่วยเหลือหรือเยียวยากลุ่มไหน อย่างไร คงไม่จำเป็นต้องมาอาศัยคำแนะนำจากคนที่หนีคดี แล้วทิ้งให้ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ต้องรับโทษทัณฑ์ติดคุกแทน และถ้านางสาวยิ่งลักษณ์ เก่งกาจมีความสามารถจริง เศรษฐกิจของประเทศก็คงจะไม่ซบเซา ทรุดโทรมจนต้องเตรียมการกู้เงินมหาศาล
สิ่งที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ทิ้งตราบาป ให้กับคนไทยทุกคนด้วยการปล่อยให้มีการทุจริตโครงการจำนำข้าวนั้น คนไทยยังไม่ลืม และยังก้องในสองหูของชาวนาอยู่ตลอดเวลา ชาวนาก็ได้แต่ภาวนาขอให้ไปลับ อย่าได้กลับมาหลอกหลอนชาวนากันอีกเลย นี่คือเสียงบ่นด่าทอที่มีให้นางสาวยิ่งลักษณ์จากชาวนาที่ถูกโกง
นอกจากนี้ตนเพิ่งทราบว่าผู้นำที่ทำให้คนไทยมีสุขภาพจิตดีจะต้องมีมวลมหาประชาชนออกมาขับไล่เต็มท้องถนนมืดฟ้ามัวดิน ต้องหนีคดีโกงข้าวชาวนาไปอยู่ต่างประเทศ และตนเพิ่งรู้ว่าผู้นำที่ทำให้คนไทยสุขภาพจิตดีต้องทำให้ชาวนาเสียใจชอกช้ำจนต้องผูกคอตายมากมายหลายชีวิต เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว บ้านช่อง ห้องหอที่ไร่ที่นาถูกยึดแทบล้มละลายสิ้นเนื้อประดาตัว การปกครองแบบนี้ใช่ไหมที่ต้องเรียกว่า คนไทยมีสุขภาพจิตดี
มันน่าขำกลิ้งในสิ่งที่นางสาวยิ่งลักษณ์บริหารให้คนไทยมีสุขภาพจิตดี แต่กลับทิ้งหนี้สินไว้ให้มากมาย ชาวนาจะเป็นจะตายช่างหัวปะไรอย่างนั้นใช่หรือไม่ น่าละอายใจแทนผู้นำที่หนีเอาตัวรอดที่สุด ไม่สนใจใยดีว่า ชีวิตชาวนาครอบครัวลูกหลานที่ถูกโกงชาวนาเขาเหล่านั้นจะมีสุขภาพจิตเป็นอย่างไร หรือคิดว่าครอบครัวชาวนาเหล่านั้น คงจะมีสุขภาพจิตดี ดีจริงๆ ในความคิดของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างนั้นใช่ไหม คิดได้ยังไงกัน
และถ้าประชาชนไม่ออกมาขับไล่ ถ้าคสช.ไม่มาแก้หนี้สินให้ชาวนา ป่านนี้ชาวนาไทยที่ถูกโกงชาวนาที่แบกภาระเป็นหนี้เป็นสินจะต้องผูกคอตายเพิ่มอีกมากมาย นางสาวยิ่งลักษณ์ยังกล้ามาบิดเบือนใส่ความรัฐบาลนี้ ทั้งที่รัฐบาลในอดีตที่ตัวเองบริหาร คนไทยมีสุขภาพจิตแย่ที่สุด ผูกคอตายมากที่สุดเพราะถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้นำรัฐบาลในยุคนั้น ทำไมลืมง่ายจัง” นายเสกสกล กล่าว
