แคนาดาอยู่ภายใต้แรงกดดันจากบริษัทต่างๆ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในการให้ผ่อนปรนคำสั่งห้ามเดินทาง ซึ่งกำหนดไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด ข้อกำหนดดังกล่าวได้รับการต่ออายุทุกเดือน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ยังคงยืนยันในคำสั่งเดิมโดยกล่าวว่า พรมแดนส่วนใหญ่จะถูกปิดจนกว่าชาวแคนาดาร้อยละ 75 ได้รับวัคซีนโดสแรก และร้อยละ 20 ได้รับวัคซีนทั้งสองโดสแล้ว เพราะแม้แต่บุคคลที่ได้รับวัคซีนครบสมบูรณ์ก็สามารถแพร่เชื้อโควิดไปให้ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนได้
คำสั่งห้ามเดินทางของนายกรัฐมนตรีแคนาดา กำลังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวและการส่งออกการบริการโดยสหรัฐเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแคนาดา
ไบรอัน ฮิกกินส์ ผู้แทนสหรัฐ และบิล ฮุ่ยเซนกา ประธานร่วมของกลุ่มรัฐสภาแคนาดา-สหรัฐได้ออกมากล่าวว่า การที่รัฐบาลสหรัฐ และแคนาดาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการบรรเทาข้อจำกัดเรื่องพรมแดนนั้น เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
ด้านกลุ่มผู้บริหารระดับสูง สภาธุรกิจแห่งแคนาดา และสภาการท่าอากาศยานแคนาดา ต่างก็แสดงความผิดหวังกับการขยายเวลาดังกล่าว ในส่วนหอการค้าแคนาดา ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนธุรกิจระดับชาติ มีความเห็นว่าคำสั่งนี้เป็นความระมัดระวังที่มากเกินไปของแคนาดา