วันนี้(16 มิถุนายน 2564) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตามที่กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้เปิดประมูลโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ จำนวน 2 เส้นทาง ระยะทางรวม 678 กม. วงเงินก่อสร้างรวม 127,605.4 ล้านบาท ประกอบด้วยสายเหนือ ช่วงเด่นชัย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. มูลค่าก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท และสายอีสาน ช่วงบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 355 กม. มูลค่าก่อสร้าง 54,684.40 ล้านบาท ซึ่งกลายเป็นข้อถกเถียงกันอย่างมากว่ามีการฮั้วประมูลกันหรือไม่นั้น
ผลของการประมูลรถไฟทางคู่ 2 เส้นทางใหม่นี้ เป็นการชี้ให้เห็นว่า อาจมีการแบ่งเค้กกันอย่างลงตัวของกลุ่มบริษัทผู้ประมูลต่าง ๆ อย่างชัดแจ้ง เนื่องจากผลของการประมูลผู้ชนะเสนอราคาใกล้เคียงกับราคากลางมาก แต่ต่างจากการเปิดประมูลรถไฟทางคู่สายใต้ช่วงนครปฐม-ชุมพร ในปี 2560 พบว่า สายใต้ประหยัดค่าก่อสร้างได้มากกว่า กล่าวคือ สายใต้มีราคากลาง 36,021 ล้านบาท ราคาที่ได้จากการประมูล 33,982 ล้านบาท นั่นคือประหยัดได้มากถึง 2,039 ล้านบาท
ที่สำคัญมีการแบ่งการประมูลสายเหนือออกเป็น 3 สัญญา ส่วนสายอีสานแบ่งออกเป็น 2 สัญญา รวมเป็น 5 สัญญา เท่ากับจำนวนผู้รับเหมาขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าประมูลได้พอดี ซึ่งในการประมูลที่เกิดขึ้นก็มีผู้รับเหมาขนาดใหญ่เข้าประมูล 5 ราย และชนะการประมูลทุกราย จึงเป็นข้อพิรุธซึ่งอาจเป็นการ‘สมรู้ร่วมคิด ล็อคสเปค ฮั้วประมูล’ อาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 หรือกฎหมายฮั้วประมูล แม้ทางผู้ว่า รฟท.จะออกมาปฏิเสธและว่าการประมูลโปร่งใสก็ตาม
ในขณะเดียวกันองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ก็ได้ออกมาท้วงติงว่า บ้านเมืองของเรามีคดีคอร์รัปชันมากมายที่กว่าจะถูกจับโกงได้ก็ผลาญชาติจนเสียหายไปมากแล้ว เพราะสังคมหลงเชื่อคนมีอำนาจที่คอร์รัปชันแต่ปากก็อ้างว่าโปร่งใส ทุกอย่างถูกกฎหมายแล้ว เช่น กรณีสนามฟุตซอล คลองด่าน โฮปเวลล์ บ้านเอื้ออาทร จำนำข้าว เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ถุงมือยาง ฯลฯ และบ่อยครั้งที่พบว่ามีการวางแผน ‘สมรู้ร่วมคิด ล็อคสเปค ฮั้วประมูล’ อยู่เบื้องหลัง การเปิดประมูลอีบิดดิ้งกลายเป็นเรื่องบังหน้า
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปยื่นร้องเรียนต่อป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนและสอบสวนการประมูลโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางใหม่ จำนวน 2 เส้นทางดังกล่าวว่า เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อ พรบ.ป.ป.ช.2561 ประกอบ พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 และพรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 หรือกฎหมายฮั้วประมูลหรือไม่ โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพฤหัสที่ 17 มิ.ย.64 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี
