นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เริ่มนโยบายการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2664 เป็นต้นมาถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2564 มีการฉีดวัคซีนทั่วประเทศจำนวน 1,865,190 โดส และตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 12 มิถุนายน 2564 มีการฉีดสะสมแล้วรวมทั้งสิ้น 6,081,242 โดส แยกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน4,456,786 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 1,624,456 ราย ส่งผลให้ปัจจุบันไทยมียอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน และเป็นไปตามเป้าหมายของแผนการฉีดวัคซีนสำหรับประชากรไทยในประเทศไทย
สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยกระทรวงแรงงานนั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมได้ปรับปรุงระบบการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้การฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกันตนในพื้นที่กรุงเทพฯได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะเปิดให้บริการแก่ผู้ประกันตน ม 33 ที่นายจ้างได้ลงทะเบียนในระบบ e-Service อีกครั้งในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน เป็นต้นมา สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกไปแล้วมากกว่า 2 แสนราย โดยมีผู้ประกันตน ม. 33 ที่แสดงความประสงค์ฉีดวัคซีนจำนวน 6,037,497 คน เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณทลประมาณ 3.6 ล้านคน และในพื้นที่ Eastern Seaboard และส่วนภูมิภาคอีกกว่า 2.3 ล้านคน ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตนตามเป้าหมายที่วางไว้โดยเร็ว
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ในส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ จนถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2564 มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมแล้วจำนวน 1,678,948 โดส แยกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 944,552 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 367,198 ราย นอกจากนี้การกระจายวัคซีนไปตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ นั้น รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยจากนี้ไปจะมีการกระจายวัคซีนโควิด-19 ได้เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับการส่งมอบจากผู้ผลิต