“นายกฯชาย” ฟิต เรียกส.ส.ใต้ประชาธิปัตย์ จัดกระบวนทัพรับศึกเลือกตั้งใหญ่!

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนการจัดวางตัวของผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ เพื่อรองรับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ในจ.ชุมพรนายเดชอิศม์ระบุว่าในส่วนของนายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี อดีตส.ส.ชุมพร และทีมงานคงจะไม่ย้ายไปพรรคอื่นตามที่มีกระแสข่าว ในส่วนของจ.นครศรีธรรมราชจะมีการปรับเอาคนรุ่นใหม่มาลงแทนส.ส.เดิม 3 เขต จาก9 เขตเลือกตั้งที่กกต.จัดแบ่งไว้แล้ว คือ นายราชิต สุขพุ่ม อดีตผู้ว่าปัตตานี นายพิชิตชัย เดชเดโช และนางอวยพรศรี เชาวลิต ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 5 ก.พ. นี้

ขณะที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยเรียกร้องให้พรรคประกาศจุดยืนทางการเมืองให้ชัดเจน โดยให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลได้สอบถามว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าผู้บริหารจะไม่ส่งตนเองลงเลือกตั้งส.ส.ครั้งหน้า จึงขอให้ประกาศชัดเจนว่าจะส่งตนลงสมัครส.ส.ปัตตานีหรือไม่ อย่ากั๊กทางการเมือง ซึ่งนายเดชอิศม์กล่าวว่าขอเวลาให้ตนไปหารือกับนายจุรินทร์ และนายเฉลิมชัยก่อนแล้วจะมาให้คำตอบ

ส่วนที่จ.ตรัง ท่ามกลางสถานการณ์ข่าวว่ามีปัญหาความขัดแย้งจากการแย่งกันลงจนคนมากกว่าเขต โดยน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าในจังหวัดนี้ หากหาผู้สมัครที่มีความพร้อมและศักยภาพ จะสามารถได้ส.ส.ยกจังหวัด จึงขอให้พิจารณาตัวบุคคลให้ดี

รวมถึงจ.พังงาที่นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรค ที่ได้ขึ้นป้ายแนะนำตัวพร้อมรูปนายชวน หลีกภัย ในเขต2 อ.คุระบุรี และมีการทำพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแข่งกับคนใกล้ชิดของนายจุรินทร์ จนทำให้นายเดชอิศม์ไม่กล้าเคาะชื่อและโยนให้ผู้บริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการทำพื้นที่ของพรรคคู่แข่งคือพลังประชารัฐ และภูมิใจไทยในภาคใต้ว่าเป็นไปอย่างดุเดือด แม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน แต่ก็ยังเชื่อว่าความเข้มแข็งของส.ส.และผู้สมัครของพรรค รวมกับกระแสของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ยังมีอยู่ จึงเชื่อว่าพรรคยังมีฐานเสียงที่เหนียวแน่น เพียงแต่กังวลว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีการใช้เงินซื้อเสียงค่อนข้างมากและไม่ต่ำกว่า 10 หลัก ซึ่งในประวัติศาสตร์ของภาคใต้ ไม่เคยมีการใช้เงินทำการเมืองมากขนาดนี้มาก่อน