ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เดินทางมารับหนังสือจากทางกลุ่มภาคีเซฟบางกลอย ศูนย์บริการประชาชนทำเนียบรัฐบาล สำนักงานข้าราชการพลเรือน (กพ.) โดยภาคีเซฟบางกลอย เรียกร้องขอให้ประสานงานหรือสั่งการไปยังพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน ให้ชะลอการฟ้องชาวบ้านบางกลอยทั้ง 28 คนไว้ก่อนรวมทั้งให้ยุติการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ขอให้สั่งการให้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหากฎหมาย และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความ เร่งรัดจัดประชุมโดยเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านคดีความของชาวบ้าน ก่อนการดำเนินการใด ๆ ของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ และ ขอให้ประสานงานไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ยุติการดำเนินการใด ๆ ในระดับพื้นที่ เนื่องจากมีบันทึกข้อตกลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 และขณะที่ยังอยู่ในระหว่างการแก้ปัญหาของคณะกรรมการฯ ที่ ร.อ.ธรรมนัส เป็นประธานอยู่ รวมทั้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณียิงเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงฯ และผลการดำเนินการตามปฏิบัติการใจแผ่นดิน ยอดดวงใจแก่งกระจาน อย่างเป็นทางการและตรงไปตรงมาต่อสาธารณะ
ด้าน นายธัชพงศ์ แกดำ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ได้เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาอีก 5 ชุด แต่ปรากฏว่าหัวใจสำคัญเรื่องการชะลอการดำเนินคดีกับชาวบ้านทั้ง 28 รายนั้น ไม่ถูกนำไปปฏิบัติ ตนยืนยันว่า ต้องชะลอคดีเอาไว้ก่อน จนกว่าคณะทำงานที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรี มีร.อ.ธรรมนัสเป็นประธาน จะทำงานเสร็จ แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ว่าจะเอาอย่างไร แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำทุกอย่างย้อนแย้ง สวนทางกับคณะกรรมการ ไม่ยอมชะลอคดีความ แต่เพิ่มข้อหาหนักให้ชาวบ้าน
“ความผิดที่ชาวบ้านโดนเมื่อวานนี้ หนักมาก คือติดคุกหัวโต มันย้อนแย้งกับคณะทำงานตาม MOU ที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหากันอยู่ หลักการการทำงานมันควรจะเป็นการให้ชาวบ้านมามีส่วนร่วม แต่เจ้าหน้าที่กลับเร่งรัดคดี เรียกชาวบ้านไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมโดยแจ้งชาวบ้านก่อนไม่กี่วัน วันที่ 27 พ.ค.นี้จะสั่งฟ้องชาวบ้านทั้งหมด แสดงว่าเจ้าพนักงานในพื้นที่ทำลายทุกอย่าง ทั้ง MOU ทั้งคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาที่ยังไม่ได้ดำเนินการทำงานไปซักเท่าไหร่เลย แต่เจ้าพนักงานจะเอาชาวบ้านติดคุกให้ได้” นายธัชพงศ์กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวชี้แจงว่า ได้ประสานงานไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนคดี รวมทั้งนายชัยพร เกริกกุลธร อธิบดีอัยการ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ในนามประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความ กรณีกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้านคดีได้ข้อยุติภายใน 10 วัน
“เรื่องแรกผมได้รับการประสานจากทางพีมูฟแล้ว ผมประสานไปยังผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเรียบร้อยแล้ว การประชุมครั้งแรกที่ผมเป็นประธานได้มีข้อตกลงว่าเราจะชะลอการดำเนินคดีของพี่น้องบางกลอย อันนี้เรื่องแรก เรื่องที่สองวันนี้ผมจะเขียนหนังสือไปยังท่านอธิบดีอัยการบ่ายวันนี้ เพื่อให้ท่านที่เป็นประธานอนุกรรมการด้านคดี เขียนหนังสือไปยังอัยการจังหวัดเพชรบุรี เจ้าของสำนวน ให้ชะลอคดี รวมทั้งไม่เพิ่มคดีให้พี่น้องบางกลอย เรื่องที่สามคือ การประชุมของคณะอนุกรรมการเรื่องคดีความ ประชุมให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ทั้งนี้ ภาคี saveบางกลอย ที่มีประมาณ 50 คน ยังคงปักหลักอยู่บริเวณสำนักงาน ก.พ.เดิมไม่ยอมเดินทางกลับ หลังจากที่ ร.อ.ธรรมนัส มารับเรื่องแล้วก็ตาม แต่ขอรอดูเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. นายพันศักดิ์ เจริญ (ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สปน.) ได้นำหนังสือบันทึกข้อตกลง ที่ลงนามโดย ร.อ.ธรรมนัส มามอบให้กับนายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ตัวแทนชาวบ้านบางกลอย จ.เพชรบุรี ซึ่งทางกลุ่มฯ พอใจ จากนั้น นายธัชพงษ์ แกดำ ตัวแทนภาคี#saveบางกลอย กล่าวว่า พอใจในการดำเนินการ พร้อมทั้งกล่าวยุติการชุมนุมให้มวลชนแยกย้ายเดินทางกลับ
