No data was found

หมดเวลาพวกล้มเจ้า ป้ายหน้านักการเมืองปลุกปั่น-พรรคที่สนับสนุน นักวิชาการล้างสมอง-อาจารย์ยุยง

กดติดตาม TOP NEWS

ได้เวลาจัดการขบวนการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยลงดาบฟัน "อานนท์ -ไมค์-รุ้ง" ล้มล้างเสาหลักของชาติไทย ลุ้นกกต.เดินหน้าจัดการนักการเมืองปลุกปั่น ยุบพรรคการเมืองสนับสนุนเด็กก่อวุ่นวายเปลี่ยนการปกครอง ได้เวลาตำรวจแสดงฝีมือเอาผิดลงโทษแกนนำล้มเจ้า ตรวจสอบนักวิชาเกินด็อกเตอร์เพี้ยน ล้างสมองเด็กปลูกฝังเกลียดชังเจ้าแบบผิดๆ

กลายเป็นคดีประวัติศาสตร์ไปแล้วสำหรับการอ่านคำวินิจฉัยเมื่อ 10 พ.ย. 2564 หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ออกนั่งบัลลังก์วินิจฉัยคดีที่ณฐพร โตประยูร ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ ม. 49 ว่า อานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ , ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ , และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ในฐานะผู้ถูกร้อง ชุมนุมปราศรัย ภายใต้งานที่ชื่อว่า “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน”  เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เสนอข้อเรียกร้อง 10 ข้อในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ ม. 49 หรือไม่

ใช้เวลาอ่านคำวินิจฉัย 25 นาที ก่อนตุลาการเสียงข้างมากมีมติเอกฉันท์ 8:1 วินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 3 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตาม ม. 49 พร้อมสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้ง 3 คน รวมไปถึงองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ตาม รัฐธรรมนูญ ม. 49 วรรคสองด้วย โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากทั้ง 8 คน ประกอบด้วย 1.วรวิทย์ กังศศิเทียม 2.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ 3.ปัญญา อุดชาชน 4.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 5.วิรุฬห์ แสงเทียน 6.จิรนิติ หะวานนท์ 7.นภดล เทพพิทักษ์ และ 8.บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างน้อย 1 คน คือ อุดม สิทธิวิรัชธรรม

ชัดเจนพันเปอร์เซ็นต์หลังอรหันต์ทั้งคณะ พิพากษาคดีดังกล่าว “อานนท์- ไมค์ – รุ้ง” กลายเป็นคนประวัติศาสตร์ที่จะถูกตราหน้าไปตลอดกาลตราบจนสิ้นลมดินกลบหน้าว่าเป็นพวกล้มเจ้าทำลายสถาบัน คำวินิจฉัยที่ออกมาก็แสดงให้เห็นความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็น 1 ใน 3 เสาหลักของชาติไทยเป็นอย่างดี ” พระมหากษัตริย์กับชาติไทยดำรงอยู่คู่กัน นับแต่อดีตถึงปัจจุบันและจะดำรงอยู่ด้วยกันต่อไปในอนาคตประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแล้ว ปวงชนชาวไทยยังเห็นพ้องร่วมกันอัญเชิญพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นสถาบันหลักคู่ชาติไทยและถวายความเคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้…..ประวัติศาสตร์การปกครองของไทยนั้นอำนาจการปกครองเป็นของพระมหากษัตริย์มาโดยตลอดนับแต่ยุคสุโขทัย อยุธยา ตลอดจนรัตนโกสินทร์พระมหากษัตริย์ซึ่งทรงเป็นประมุขของไทย มีพระราชภารกิจที่สำคัญยิ่งเพื่อรักษาความอยู่รอดของบ้านเมืองและประชาชน โดยจะต้องดำรงตำแหน่งจอมทัพไทยเพื่อนำกองทัพต่อสู้ปกป้องและขยายอาณาจักรตลอดเวลาในยุคก่อนที่ผ่านมา ประกอบกับพระมหากษัตริย์ไทยทรงถือหลักการปกครองโดยยึดหลักธรรมของพุทธศาสนาและยึดถือทศพิธราชธรรมเป็นหลักในการปกครองประเทศ พระมหากษัตริย์ของไทยจึงเป็นที่เคารพและศรัทธา เป็นศูนย์รวมจิตใจความเป็นหนึ่งเดียวกันของปวงชนชาวไทยมาโดยตลอดเป็นเวลามาหลายร้อยปี” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย

 

ก่อนจะมาถึงไฮไลต์สำคัญของคดีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลงดาบฟันคอชี้ให้เห็นว่า 3 ตัวการฝักใฝ่ล้มเจ้ากระทำการเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
” การใช้สิทธิเสรีภาพของผู้ถูกร้องทั้ง 3 ไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย การกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 3 เป็นการอ้างสิทธิเสรีภาพเพียงอย่างเดียว ไม่ได้คำนึงถึงหลักความเสมอภาค ภราดรภาพ ผู้ถูกร้องทั้ง3ใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างจากบุคคล รวมทั้งล่วงละเมิดสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่นที่เห็นต่างด้วย ด้วยการด่าทอ รบกวนพื้นที่ส่วนตัว ยุยงปลุกปั่น ด้วยข้อเท็จจริงที่บิดเบือนจากความเป็นจริง มีการจัดตั้งกลุ่มในลักษณะเป็นองค์กรเครือข่าย มีการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง บางเหตุการณ์ผู้ถูกร้องทั้ง 3 มีส่วนในการจุดประกายในการอภิปรายปลุกเร้าให้เกิดความรุนแรงในบ้านเมืองทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติอันเป็นการทำลายหลักความเสมอภาคและภราดรภาพ ผลการกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 3 นำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข…..ทั้งพฤติการณ์และเหตุการณ์ต่อเนื่องจากการกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 3 แสดงให้เห็นมูลเหตุจูงใจว่าผู้ถูกร้องทั้ง 3 มีเจตนาซ่อนเร้นเพื่อล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไม่ใช่เป็นการปฏิรูป” ม้วนเดียวจบของการอ่านคำวินิจฉัย หมดเวลาพวกล้มเจ้าเพราะบรรทัดสุดท้ายของคำวินิจฉัยยังหมายรวมไปถึงเครือข่ายไม่ใช่แค่ตัวการ 3 คน ” วินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง3เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตาม ม. 49 และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้ง 3 รวมทั้งองค์กรเครือข่ายเลิกกระทำการดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วยตาม ม. 49 วรรคสอง”

อยากที่ทุกคนเข้าใจคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นผูกพันทุกองค์กร จากนี้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องจะต้องไปแกะคำวินิจฉัยถอดรหัสคำพิพากษา แปรความไปเป็นวิธีปฏิบัติเอาขบวนการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย หมายล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาลงโทษเอาผิดให้ได้ ป้ายนี้ 3 แกนนำการเคลื่อนไหว ป้ายหน้าต้องจัดการฝ่ายหนุนคนยุยงให้เด็กออกมาชุมนุมให้ได้ จำเลยที่ 1 เห็นแววมาแล้วไม่แคล้วพรรคก้าวไกล หมายรวมไปถึงคณะก้าวหน้า รอบนี้ต้องบั่นคอเอา “ธนาธร -ปิยะบุตร-พิธา” และเครือข่ายสายส้มหวานพรรคสามกีบมาลงทัณฑ์ ดำเนินคดียุยงปลุกปั่นเป่าหูเด็กให้ติดคุกเข้าตะรางให้จงได้ เพราะต้นทางที่ทำให้เด็กเวรม็อบล้มเจ้าเกิดก็มาจากการปั่นกระแสของนักการเมืองชั่วช้าสามานย์เหล่านี้ แล้วอย่าหลงเหลี่ยมมัวจับแต่ส้มล้มเจ้าจนลืมแดงอีแอบจอมเจ้าเล่ห์ที่ชอบทำร้ายสถาบันแบบลับหลัง สู้ไปกราบไปลิงหลอกเจ้าอย่างพรรคเพื่อไทยใต้ร่มเงาทักษิณก็ไม่ใช่เล่น ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก อย่าคิดว่าจะดีไปกว่าฝ่าย “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” เผลอๆโทนี่วู้ดซั่มเครือข่ายฝ่ายแม้วนี้แหละ ที่เป็นไอ้โม่งตัวจริงหวังเก็บกินผลประโยชน์ ยุเด็กไปติดคุกเป่าหูคนล้มเจ้านาย ไปย้อนความรันเทปเรียกของเก่ามาดูได้ ทั้งแม้วทั้งสมุนพูดล้มเจ้าให้ความเห็นรื้อสถาบันนับไม่ถ้วน กระซิบข้างหู มือที่มองไม่เห็น ทำบุญในวัดพระแก้ว อยากเป็นประธานาธิบดี ฯลฯ พวกนี้คนไทยรับรู้กันหมดแล้ว แต่เพราะเหลี่ยมจัดอยู่เป็น ลักปิดลักเปิดด่าไปไหว้ไป เอาผิดคาหนังคาเขาไม่ได้เลยรอดสันดอนมาตลอด ซีรี่ย์เกาหลีหนังฝรั่งก็เห็นกันอยู่ ตัวร้ายตอนแรกแค่เบอร์รอง ของจริงจอมบงการเบอร์ใหญ่มักโผล่มาตอนจบ แต่สรุปสุดท้ายก็ตายเหมือนกัน

 

ได้โอกาสศาลรัฐธรรมนูญมาเปิดทางให้เที่ยวนี้ องคาพยพเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เหลือต้องเอาคำวินิจฉัยไปเดินต่อดำเนินคดีให้หนักจัดการให้สาสม อย่าปล่อยให้เป็นเยี่ยงอย่างกับลูกหลานในอนาคต คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองต้องไปสแกนดูเอ็กซเรย์ให้รอบครอบ ส.ส.คนไหนผู้แทนคนใดหนุนล้มเจ้าให้ท้ายคนผิดอุ้มคนทำลายชาติ ต้องลงโทษให้หนักเอาผิดให้เหมาะสม เฉพาะตัวตัดสิทธิ์เลือกตั้ง ในส่วนพรรคก็ยุบมันไป อย่าให้เป็นที่ซ่องสุมรวมพลคนจัญไรอีกต่อไป ฝ่ายตำรวจสีกากีก็ต้องเด้งรับลูกทำสำนวนให้รัดกุมดำเนินคดีให้แน่ชัด อย่าปล่อยให้หลุดอย่าทำให้รอด แกนนำกี่คนแกนตามกี่คน ฮาร์ดคออยู่ที่ไหน เผาบ้านทำลายเมืองอยู่ที่ใด ต้องตามกวาดตามล้างมาให้หมด อีกพวกตัวดีที่ต้องจัดหนัก ตักเตือนแรงๆ ก็พวกนักวิชาการ-วิชากู อาจารย์สายเพี้ยน ด็อกเตอร์ฝ่ายบิดเบือน ตัวเด่นๆความผิดโดนๆ ที่ล้างสมองเด็กปั่นหัวปัญญาชนจนหลอนกันหมดแล้ว ต้องจัดเป็นคดีตัวอย่างเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่งั้นพวกครูกลุ่มอาจารย์หัวหมอพวกนี้ไม่หลาบจำ ธงของบ้านเมืองจากคำวินิจฉัยศาลมีมาแล้วอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กฎหมายบ้านเมืองต้องเด็ดขาดถ้าอยากให้สถาบันอยู่รอด ประเทศชาติปลอดภัย อย่าปล่อยสารตั้งต้นกระดุมเม็ดแรกคดีประวัติศาสตร์ต้องหมดอายุจนกลายเป็นเสียของ ถึงเวลากกต.ต้องแสดงบทบาท ถึงเวลาตำรวจผู้รักษากฎหมายของชาติต้องลงมือ ม.112 113 116 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ต้องเอาออกมาใช้ คนไทยจับตาดูอยู่อย่าทำให้ผิดหวังได้เวลาล้างบางล้างคอกเหลือบไรแผ่นดินแล้ว ปฏิรูปแค่ข้ออ้าง ล้มล้างคือของจริง
/////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่ใจโหด นำทารกแรกเกิดทิ้งถังขยะ ทั้งที่ทารกยังมีชีวิต โชคดีส่งเสียงร้องชาวบ้านได้ยินช่วยชีวิตไว้ได้
"กรมโยธาฯ" รุกมาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้าง งานก่อสร้างล่าช้า ประชาชนเดือดร้อน
“ศปปส.” ยื่นหนังสือถึง UN หยุดแทรกแซง ม.112 ลั่นกฎหมายไทย คนไทยจัดการกันเองได้
"ภูมิธรรม" มั่นใจดันผู้ประกอบการเพิ่มแต้มต่อการค้า เปิดประตูสู่เอเชียใต้ หลังดัน FTA ไทย – ศรีลังกา ผ่านสภาสำเร็จ
รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ปรับแผนการเดินรถจากเหตุขัดข้อง ตามมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมปรับลดค่าโดยสาร 20% จนกว่าจะเดินรถได้ตามปกติ
จีนใช้ ‘หุ่นยนต์สุนัข’ ตรวจสายเคเบิลในพื้นที่แคบ
“บิ๊กต่อ” ตั้งทนายฟ้องกลับ “ทนายตั้ม” หมิ่นประมาท ปมแฉเอี่ยวส่วยเว็บพนัน เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน
สหรัฐ สามปธน. เดโมแครตระดมทุนครั้งใหญ่ช่วยไบเดน
สุดอั้น จ่อปรับขึ้น "ดีเซล" ราคาหน้าปั๊มทะลุ 30 บาท มีผล 1เม.ย.67
นิรโทษกรรมเหมาเข่ง ดีลับยืมมือ "แดง" พิฆาต "ส้ม" ไม่จริง เหตุ "ก้าวไกล" เน่าในอยู่แล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น