วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกปีการผลิต68/69ของจังหวัดพิจิตรที่สหกรณ์การเกษตรตะพานหิน จำกัด โดยมี นางสาวอุไรรัตน์ คำชื่นวงศ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร, นายเอกวุฒิ ชุมวรฐายี พาณิชย์จังหวัดพิจิตร, นายกฤษฏิ์ สิทธิยศ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทน นายอำเภอตะพานหิน , ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรตะพานหิน ให้การต้อนรับ และดูบรรยากาศการรับซื้อข้าวเปลือกที่ สนง.พาณิชย์จังหวัดพจิตร จัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 15-19 พ.ย. 68 ซึ่งในแต่ละวันมีเกษตรกรเกี่ยวข้าวหอมมะลินำมาขายที่สหกรณ์การเกษตรตะพานหิน แห่งนี้วันละ 20-30 คันรถ ซึ่งมีพ่อค้าคนกลางจากโรงสีใหญ่มาคอยรับซื้อ โดยจ่ายเป็นเงินสด

สำหรับวันนี้ ราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิความชื้น 15% รับซื้ออยู่ที่ ตันละ 14,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อ 3 – 4 วันที่ผ่านมา พบว่า ราคาข้าวหอมมะลิในการรับซื้อที่ จ.พิจิตร มีราคาขยับตัวสูงขึ้นตะละ 400 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคารับซื้ออยู่ที่ราคาตันละ 6,000 บาท โดยข้าวเปลือกที่เกษตรกรนำมาขายในช่วงนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวแห้งจึงทำให้ได้ราคาสูงและใกล้เคียงกับราคากลางที่กำหนดไว้ ซึ่งคาดการณ์ว่าอีกประมาณ 7 – 10 วัน ปริมาณข้าวในทุ่งนาในเขตพื้นที่พิจิตรก็จะเก็บเกี่ยวหมดท้องทุ่งแล้ว อีกทั้งระดับน้ำในแม่น้ำน่าน-แม่น้ำยม เริ่มลดลงแล้วทำให้เริ่มมีการระบายน้ำจากท้องไร่-ท้องนา ลงสู่แม่น้ำทั้ง 2 สาย ได้บ้างแล้ว ซึ่งชาวนาพิจิตร ก็จะได้ลงมือปลูกข้าวในฤดูกาลต่อไป


นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ทุกภาคส่วนของพิจิตรทำงานเชิงรุกเป้าหมาย คือ การช่วยชาวนาให้ขายข้าวได้ราคาและต้องขายกับพ่อค้าหรือสหกรณ์ฯ ที่จ่ายเงินสดเท่านั้น โดยทีมงานของฝ่ายปกครอง-พาณิชย์-กอ.รมน.พิจิตร ก็จะลงพื้นที่สอดส่องจุดรับซื้อชี้เป้าท่าข้าว-โรงสี-สหกรณ์ ว่ามีแห่งใดรับซื้อด้วยเงินสดเพื่อให้ชาวนารับรู้และนำไปขายให้ได้เงินสดเพื่อป้องกันขบวนการโกงชาวนาไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นมาอีก
โดยวันนี้ลงพื้นที่ พบว่า ราคาข้าวหอมมะลิดีดตัวราคาขึ้นมาตันละ 400 บาท นั่นอาจเป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งข้าวใกล้จะหมดจากท้องทุ่งนาแล้วก็อาจเป็นได้






