เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ทหารพรานนาวิกโยธินร่วมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ปกครองท้องถิ่นสกัดจับกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองพร้อมผู้นำพาที่เป็นคนไทย หลังสอบสวนสอบถามการเดินทางเข้าไทย เจ้าหน้าที่ต้องตะลึงเนื่องจากแรงงานเดินฝ่าพื้นที่สนามทุ่นระเบิด สมัยสงครามที่ยังเก็บกู้ไม่หมด
ที่ฐานปฏิบัติการคลองโป่งน้ำร้อน หมู่4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นาวาเอกศราวุฒิ บุตรเสรีชัย หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่4 เดินทางร่วมตรวจสอบในการจับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพร้อมคนนำพา โดยเรือเอกอิทธิพล ตันติวิศวกรรม
ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่546 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ด่านถาวรบ้านผักกาด กำนันตำบลคลองใหญ่ สกัดจับกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำนวน17 คน ขณะเดินทางมาขึ้นรถยนต์ที่นัดกันไว้บนถนนสายคลองใหญ่ -ตลาดการค้าชายแดนบ้านผักกาด
จากการเปิดเผยของชุดเจ้าหน้าที่ทราบว่าได้มีรายงานจากสายข่าวว่าจะมีการส่งกลุ่มลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ในพื้นที่จึงนำกำลังออกลาดตระเวนและวางจุดซุ่มสกัดจนกระทั่งในเวลาช่วงประมาณ 5.30 น ของวันนี้ ชุดทำงานได้ตรวจพบกลุ่มแรงงานดังกล่าวขณะกำลังทยอยกันออกมาจากที่หลบซ่อนเพื่อขึ้นรถยนต์ กระบะโตโยต้า สีขาว มีคอกเหล็ก ทะเบียน ผก 1063 จันทบุรี มีนายบุญธรรม ผกา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่52/3 หมู่5 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จันทบุรี เป็นคนขับ จึงควบคุมทั้งหมดมาสอบสวนที่ฐานปฏิบัติการคลองโป่งน้ำร้อน ทราบว่ารถคันดังกล่าวมารับแรงงานทั้งหมดไปส่งนายจ้างที่อำเภอสอยดาว เพื่อเก็บลำไยโดยเสียค่ารถคนละ 3,500 บาท ซึ่งนายจ้างจะเป็นผู้จ่ายเเมื่อส่งถึงที่หมาย โดยจากการรับสารภาพของแรงงานทำเอาทหารพรานถึงกับตะลึงเนื่องจากเส้นทางที่ใช้ข้ามมาทางช่องทางธรรมชาตินั้นเป็นพื้นที่อันตรายเป็นสนามทุ่นระเบิดที่ยังหลงเหลือในสมัยสงคราม จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจโป่งน้ำร้อน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไพโรจน์ อนุ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จ.จันทบุรี