AFP รายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐได้โพสต์ผ่าน Truth เมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 8 พย.) ตามเวลาท้องถิ่นประกาศว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่การประชุมผู้นำจี-20 จะถูกจัดขึ้นแอฟริกาใต้ พร้อมประกาศว่าสหรัฐจะไม่ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมตราบใดที่แอฟริกาใต้ยังมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ประกาศจะส่งรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ เป็นตัวแทนเขาเพื่อไปร่วมการประชุมระหว่างวันที่ 22-23 พฤศจิกายน แต่ล่าสุดเปลี่ยนใจจะไม่ส่งใครร่วมการประชุม โดยให้เหตุผลว่าชาวแอฟริกันที่เป็นลูกหลานของผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยุโรปได้ถูกสังหารขณะที่ฟาร์มและที่ดินของพวกเขาถูกยึดไปอย่างผิดกฎหมาย
ทรัมป์กล่าวด้วยว่าเขาตั้งตารอที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด G20 ในปีหน้า (2569) ที่สหรัฐ โดยจะจัดขึ้นที่รีสอร์ทส่วนตัวที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา
ด้านกระทรวงต่างประเทศแอฟริกาใต้ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาของทรัมป์ โดยกล่าวว่าคำพูดของทรัมป์นั้นเป็นที่ “น่าเสียใจ” และว่าชาวแอฟริกาใต้ไม่ได้มีเฉพาะชนผิวขาวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ข้อกล่าวอ้างที่ว่าชุมชนผิวขาวกำลังเผชิญกับการข่มเหงนั้นไม่มีหลักฐานและไม่เป็นความจริง
ทรัมป์ได้ตั้งเป้าโจมตีและกล่าวหาแอฟริกาใต้ปมการเลือกปฏิบัติและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนผิวขาว นับตั้งแต่เขากลับเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคมและเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ประกาศแผนลดโควต้าจำนวนผู้ลี้ภัยจากแอฟริกาใต้ลงเหลือเพียง 7,500 คนต่อปี ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และประกาศจะเน้นรับคนผิวขาวเป็นหลัก นอกจากนี้ทรัมป์ก็เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแอฟริกาใต้ถึง 30% ซึ่งสูงที่สุดในพื้นที่ทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า

