AFP รายงานว่าพายุฟงวองซึ่งมีรัศมีขนาดใหญ่ครอบคลุมเกือบทั่วประเทศฟิลิปปินส์ ได้ยกระดับขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (อาทิตย์ที่ 9 พย.) เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเดิมคาดว่าจะเป็นช่วงค่ำวันนี้
โดยเกาะคาตันดัวเนส เกาะขนาดเล็กที่สำนักพยากรณ์อากาศฟิลิปปินส์คาดว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงได้เริ่มเผชิญกับลมและฝนที่ตกกระหน่ำตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้เกิดคลื่นสูงซัดน้ำทะเลขึ้นมาท่วมถนนตามแนวชายฝั่ง
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองซึ่งก่อตัวขึ้นหลังจากที่ไต้ฝุ่นคัลแมกีพัดถล่มจังหวัดเซบูและพื้นที่ตอนกลางของฟิลิปปินส์ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้ทวีกำลังขึ้นเป็น 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกระโชก 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ชาวบ้านที่อยู่ริมชายฝั่งเผยว่าได้ยินเสียงคลื่นขนาดใหญ่ซัดขึ้นฝั่งตั้งแต่ 7 โมงเช้า ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนและฝนตกหนัก
เมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 8 พย.)ประชาชนบางส่วนได้ใช้เชือกขนาดใหญ่ผูกเสาบ้านยึดไว้กับพื้นดิน และหาสิ่งของที่มีน้ำหนักวางทับไว้บนหลังคาป้องกันบ้านถูกหอบไปกับกระแสลม
ที่เมืองซอร์โซกอน ทางตอนใต้ของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ตามชายฝั่งได้พากันเข้าไปหลบภัยอยู่ภายในโบสถ์ ส่วนที่จังหวัดออโรร่า ซึ่งคาดว่าไต้ฝุ่นฟงวองจะพัดขึ้นฝั่งในช่วงกลางดึกคืนนี้หรือเช้าตรู่พรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 10 พย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลงพื้นที่เคาะประตูตามบ้านเตือนให้ชาวบ้านอพยพไปยังพื้นที่สูง
ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์คาดว่าซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวองจะทำให้เกิดฝนตกหนักประมาณ 200 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง และมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้น้ำในแมน้ำสายหลักล้นตลิ่ง
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ไต้ฝุ่นคัลแมกีได้ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงที่จังหวัดเซบู ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 204 คนยังสูญหายอีก 109 คน ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดของปีนี้ (2568) ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องหยุดปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายเพื่อความปลอดภัย และเตรียมความพร้อมรับมือกับซูเปอร์ไต้ฝุ่นฟงวอง

