
มีรายงานว่าก่อนหน้านี้ พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ถูกน้ำท่วมแล้ว 7 ชุมชน รวม 846 ครัวเรือน โดยบางพื้นที่เริ่มมีแนวโน้มระดับน้ำลดลง แต่หลังจากการระบายน้ำจากเขื่อนตอนบน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเซนติเมตร ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งและขยายวงเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนมากขึ้น

ด้านเทศบาลนครนครสวรรค์ ได้จัดเจ้าหน้าที่กองช่างและงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มริมฝั่งน้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีกในระยะนี้
อย่างไรก็ตาม พื้นที่เขตเศรษฐกิจสำคัญบริเวณตลาดปากน้ำโพ ขณะนี้ระดับน้ำยังคงต่ำกว่าระดับสันเขื่อนอยู่พอสมควร เทศบาลยืนยันว่าอยู่ในระดับปลอดภัย แต่ยังคงติดตามและเตรียมมาตรการรับมืออย่างต่อเนื่อง

นายฉัตรมงคล มาศสุข อายุ 58 ปี ชาวชุมชนเกาะยม เปิดเผยว่า บ้านของตนตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำปิง เดิมทีน้ำก็ท่วมอยู่แล้ว ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 30–40 เซนติเมตร และตลอดสามวันที่ผ่านมา น้ำได้ท่วมบ้านสูงกว่า 1 เมตรแล้ว การสัญจรเข้าออกต้องใช้เรือเท่านั้น ได้ยินข่าวว่าทางเขื่อนตอนบนจะปล่อยน้ำลงมาเพิ่มอีก คาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกหลายเซนติเมตร ตอนนี้ก็ได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ขึ้นที่สูงเรียบร้อยแล้ว โดยเทศบาลนครนครสวรรค์ได้จัดเตรียมพื้นที่ให้ชาวบ้านอพยพสิ่งของได้อย่างปลอดภัย
ส่วนครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ประจำปี 2568 จำนวน 846 ครัวเรือน ดังนี้
1. ชุมชนเกาะยม จำนวน 188 ครัวเรือน
2. ชุมชนตลาดใหม่จำนวน 62 ครัวเรือน
3. ชุมชนวัดตะแบก 19 ครัวเรือน
4. ชุมชนสถานีรถไฟปากน้ำโพ จำนวน 78 ครัวเรือน
5. ชุมชนบางปรอง จำนวน 430 ครัวเรือน
6. ชุมชนชอนตะวัน จำนวน 31 ครัวเรือน
7. ชุมชนตลาดใต้จำนวน 38 ครัวเรือน




