“สหรัฐ” ออกลายขยายอำนาจ ประกาศยกเลิกห้ามขายอาวุธให้กัมพูชา อ้างร่วมมือสร้างสันติภาพ

"สหรัฐ" ออกลายขยายอำนาจ ประกาศยกเลิกห้ามขายอาวุธให้กัมพูชา อ้างร่วมมือสร้างสันติภาพ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามการค้าขายอาวุธกับประเทศกัมพูชา หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีบทบาทสำคัญในการกำกับให้เกิดการลงนามข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างกัมพูชาและไทย การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธไปยังกัมพูชา เมื่อปี 2564 ด้วยเหตุผลเรื่องอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของกองทัพจีนในกัมพูชา รวมถึงปัญหาสิทธิมนุษยชน และการทุจริตภายในรัฐบาลกัมพูชา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว ได้รับการประกาศโดยมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ที่ระบุว่า จากความมุ่งมั่นของกัมพูชา ในการแสวงหาสันติภาพและความมั่นคง รวมถึงการกลับมาร่วมมือกับสหรัฐ ด้านความมั่นคงและการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ กระทรวงการต่างประเทศจึงมีมติยกเลิกคำสั่งห้ามการค้าด้านการป้องกันประเทศ กับกัมพูชา ทั้งนี้ การขายอาวุธให้กัมพูชา จะได้รับการอนุมัติเป็นกรณีไป โดยต้องผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า สหรัฐได้รับหลักประกันเพียงพอหรือไม่ว่า กัมพูชาได้ลดอิทธิพลทางทหารของจีนลงแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่สหรัฐ ได้แสดงความกังวลมาโดยตลอด เกี่ยวกับการขยายฐานทัพเรือเรียมของจีน ที่ตั้งอยู่ใกล้น่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้ และอาจกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของจีน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในขณะเดียวกัน พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ได้เปิดเผยหลังการพบหารือกับที เซฮา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซียว่า ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะรื้อฟื้นการฝึกซ้อมทางทหารระดับสูงร่วมกันระหว่างสองประเทศอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการปรับความสัมพันธ์ทางทหาร ให้กลับมาดีขึ้น หลังจากถูกระงับไปหลายปี

 

ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ทรัมป์ได้เข้าร่วมในพิธีลงนามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชาในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการต่อยอดจากข้อตกลงหยุดยิงเดิม โดยข้อตกลงครั้งใหม่นี้ เกิดขึ้นหลังจากทรัมป์ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำทั้งสองประเทศ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และนับเป็นการปะทะกันที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ซึ่งส่งผลให้มีทหารเสียชีวิตหลายสิบราย และประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพหนีภัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“พล.ท.นันทเดช” แนะทำ 3 ข้อ ก่อนถึงวันปล่อยตัว "18 เชลยศึก" เตือนเขมรไว้ใจได้ยาก ต้องคิดทำรอบคอบ ไม่ให้ไทยเสียเปรียบ
ชายวัย 56 คลุ้มคลั่ง ขับรถพุ่งชนกำแพงบ้าน อ.บ้านหลวง – ไร้เจ็บ
สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนภูมิพล เตรียมตั้งรับพายุ “คัลแมกี”
นครสวรรค์ น่าห่วง!! ระดับน้ำเพิ่มสูง​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว​ หลังจากเขื่อนตอนบนเร่งระบายน้ำ
"สหรัฐ" ออกลายขยายอำนาจ ประกาศยกเลิกห้ามขายอาวุธให้กัมพูชา อ้างร่วมมือสร้างสันติภาพ
"ศุภมาส" ลงพื้นที่ดูปัญหาน้ำท่วมนครสวรรค์ พร้อมแจกถุงยังชีพชาวบ้าน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​